ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แนวคิดเรื่องวัฒนธรรมองค์กรได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร โดยทั่วไปวัฒนธรรมภายในองค์กรมักถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์กันตามธรรมชาติและแนวทางปฏิบัติที่พัฒนาขึ้นตามกาลเวลา มักจะไม่ได้เกิดจากเจตนาหรือทิศทางที่ชัดเจน การปล่อยให้วัฒนธรรมพัฒนาไปโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นนี้อาจส่งผลให้สภาพแวดล้อมการทำงานไม่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจ พนักงาน และในที่สุดก็ส่งผลต่อผลต่อตัวเลขธุรกิจ
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ วัฒนธรรมองค์กรจะเกิดขึ้นอยู่ดี
-Brightside People
สิ่งน่าสนใจก็คือการเกิดขึ้นเองของวัฒนธรรมองค์กรโดยไม่เกี่ยวกับการที่ผู้นำจะพยายามสร้างมันอย่างตั้งใจหรือไม่ วัฒนธรรมองค์กรจะก่อตัวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติจากปัจจัยต่างๆ เช่น ตัวตนของทีมผู้ก่อตั้ง การตัดสินใจสำคัญๆ ในช่วงแรก รูปแบบการการปฏิสัมพันธ์กันที่เกิดบ่อยๆ และแม้กระทั่งประสบการณ์ร่วมกันของพนักงาน แม้ว่าการเติบโตแบบธรรมชาตินี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์ให้องค์กร แต่ก็มีความเสี่ยงที่มันจะพัฒนาไปสู่วัฒนธรรมที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรหรือสนับสนุนผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น บริษัทสตาร์ทอัพอาจประสบความสำเร็จในตอนแรกจากวัฒนธรรมองค์กรที่เกิดอย่างฉับพลันและทำให้เกิดนวัตกรรม แต่เมื่อเติบโตขึ้นแบบขาดโครงสร้างและกระบวนการอาจนำไปสู่ความสับสน วุ่นวาย ประสิทธิภาพที่ลดลง และความพึงพอใจของพนักงานลดลง
ในทางกลับกัน หากผู้นำมีความพยามปลูกฝังชุดของค่านิยม แนวปฏิบัติ และบรรทัดฐานที่สนับสนุนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรโดยตรง ไม่ปล่อยให้วัฒนธรรมเป็นไปตามยถากรรม แต่ถูกวางแผนอย่างรอบคอบ เสริมกำลังอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ต้องการเป็นผู้นำด้านการบริการลูกค้าอาจพัฒนาวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าอย่างตั้งใจขึ้นมา โดยฝังสิ่งนี้ลงไปในทุกแง่มุมของการทำงาน ตั้งแต่การรับคนเข้ามา การฝึกอบรม ไปจนถึงการให้บริการ
✦ วัฒนธรรมองค์กร คืออะไร?
วัฒนธรรมองค์กรแบบตั้งใจสร้าง (Intentional company culture) หมายถึง การสร้างและส่งเสริมชุดค่านิยม (core values) พฤติกรรม และแนวทางปฏิบัติอย่างมีจุดประสงค์ โดยสอดคล้องและส่งเสริมเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร มีการออกแบบอย่างรอบคอบและบริหารจัดการอย่างแข็งขัน เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะสนับสนุนผลลัพธ์ที่ต้องการทางธุรกิจ
✦ วัฒนธรรมองค์กร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ?
ชุดค่านิยม (Core Values)
หัวใจสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรแบบตั้งใจสร้าง คือ ชุดค่านิยมที่องค์กรยึดมั่น ทำหน้าที่เป็นเข็มทิศนำการตัดสินใจ พฤติกรรม และแนวทางปฏิบัติภายในองค์กร ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดสวยๆ บนหน้ากระดาษ แต่เป็นชุดประสบการณ์และความคาดหวังที่อยู่ในชีวิตจริงของการทำงาน มีการสื่อสารอย่างชัดเจนและแสดงออกอย่างสม่ำเสมอโดยคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้บริหารและหัวหน้างาน ตัวอย่างของค่านิยม ได้แก่ ความซื่อสัตย์ นวัตกรรม ความเคารพ ความเป็นเลิศ หรือการทำงานเป็นทีม ค่านิยมเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นรากฐานที่วัฒนธรรมจะถูกสร้างขึ้นมา
วิสัยทัศน์และพันธกิจ (Vision and Mission)
วิสัยทัศน์และพันธกิจที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน เป็นองค์ประกอบสำคัญของวัฒนธรรมองค์กร คำชี้แจงพันธกิจ (mission statement) อธิบายวัตถุประสงค์การมีอยู่ขององค์กร ขณะที่คำชี้แจงวิสัยทัศน์ (vision statement) อธิบายถึงสิ่งที่องค์กรต้องการบรรลุในอนาคต ทั้งสองอย่างนี้ให้ทิศทางที่ชัดเจนและสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานร่วมมือกันประสานพลังเพื่อบรรลุเป้าหมาย พันธกิจและวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจสามารถกระตุ้นและรวมพนักงานให้เห็นความหมายของการทำงานของพวกเขาในแต่ละวัน
ความคาดหวังเชิงพฤติกรรม (Expected Bahaviours)
วัฒนธรรมองค์กรยังเป็นเรื่องของการกำหนดความคาดหวังด้านพฤติกรรมที่ชัดเจน ซึ่งระบุวิธีที่พนักงานควรปฏิบัติต่อกัน ต่อลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความคาดหวังเหล่านี้สัมพันธ์โดยตรงกับค่านิยมขององค์กรและสะท้อนอยู่ในกระบวนการปฏิบัติงานประจำวัน ตัวอย่างเช่น หากหนึ่งในค่านิยมคือ ความเคารพกันและกัน ความคาดหวังด้านพฤติกรรมอาจรวมถึง การฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ การยอมรับมุมมองที่หลากหลาย และการสื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อตรง
✦ วัฒนธรรมองค์กร สำคัญอย่างไร ?
วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่เพียงแนวคิดเชิงทฤษฎี แต่เป็นเครื่องมือปฏิบัติที่มีผลลัพธ์ชัดเจนต่อองค์กร การสร้างวัฒนธรรมแบบตั้งใจนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อหลายแง่มุมของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน ไปจนถึงการสนับสนุนผลลัพธ์ทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์
สนับสนุนเป้าหมายทางธุรกิจ
วัฒนธรรมองค์กรที่กำหนดไว้ชัดเจนและจงใจ จะเชื่อมโยงค่านิยมและพฤติกรรมขององค์กรเข้ากับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มุ่งเน้นด้านนวัตกรรม จะส่งเสริมวัฒนธรรมที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การกล้าเสี่ยง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การเชื่อมโยงนี้ทำให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้บรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น มีการพิสูจน์แล้วว่า บริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกันนั้น มีผลประกอบการด้านการเงินดีกว่าคู่แข่ง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างวัฒนธรรมองค์กรกับความสำเร็จทางธุรกิจ
เพิ่มความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement)
วัฒนธรรมองค์กรช่วยสร้างความผูกพันของพนักงาน เพราะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกมีคุณค่า ได้รับความเข้าใจ และเชื่อมโยงตัวเองกับวัตถุประสงค์ขององค์กร เมื่อพนักงานเห็นว่างานของตนนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายและค่านิยมที่กว้างขึ้นของบริษัท พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมและมีแรงจูงใจมากขึ้น ระดับการมีส่วนร่วมที่สูงขึ้นนี้ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น งานที่มีคุณภาพดีขึ้น และนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ พนักงานที่มีส่วนร่วมยังมีแนวโน้มที่จะอยู่กับบริษัทนานกว่าค่าเฉลี่ย ลดอัตราการลาออกและลดต้นทุนที่เกี่ยวกับการรับสมัครและพัฒนาคน
ช่วยรักษาและดึงดูดคนเก่ง
ในตลาดงานที่แข่งขันอย่างดุเดือดในปัจจุบัน วัฒนธรรมองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่พนักงานที่ใช้พิจารณาเมื่อเลือกนายจ้าง วัฒนธรรมองค์กรที่เป็นบวกสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดบุคลที่มีความสามารถ นอกจากนี้ วัฒนธรรมที่สอดคล้องกับค่านิยมของพนักงานและเสนอสภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนและเติมเต็มยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาพนักงานไว้ พนักงานมีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรที่เห็นความสำคัญในความสามารถ สนับสนุนการเติบโตและสอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัวของพวกเขา
ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวก
วัฒนธรรมองค์กรส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวก ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี การทำงานร่วมกัน และความเคารพกันและกันของพนักงาน สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและเป็นชุมชนในหมู่พนักงาน ซึ่งสามารถนำไปสู่สุขภาพจิตที่ดีขึ้น ในสภาพแวดล้อมนี้ พนักงานยินดีที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน แบ่งปันความรู้ และทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วม ส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจมากขึ้น
ขับเคลื่อนนวัตกรรมและความสามารถในการปรับตัว
โดยการส่งเสริมให้พนักงานท้าทายการทำงานแบบเดิมๆ คิดลองสิ่งใหม่ และเรียนรู้จากความล้มเหลว องค์กรเหล่านี้ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและความคล่องตัว ความสามารถในการปรับตัวนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและเป็นหลักประกันความสำเร็จในระยะยาว
เกิดแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่ง
วัฒนธรรมองค์กรส่งเสริมให้เกิดแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่ง (Employer Branding) โดยแสดงให้เห็นถึงคุณค่า วัตถุประสงค์ และความมุ่งมั่นขององค์กรต่อพนักงาน วัฒนธรรมองค์กรที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยดึงดูดบุคลที่มีความสามารถ แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริษัทที่รู้จักกันดีในด้านวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง มักจะมีชื่อเสียงที่ดีในตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่ความภักดีของลูกค้าและโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
✦ วัฒนธรรมองค์กร เริ่มต้นสร้างอย่างไร ?
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรต้องอาศัยกลยุทธ์ที่รอบคอบ ความพยายามอย่างต่อเนื่อง และความมุ่งมั่นจากทุกระดับขององค์กร โดยเฉพาะฝ่ายบริหาร เรามีคำแนะนำในการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนและมีส่วนร่วม
1) กำหนดชุดค่านิยมและวิสัยทัศน์
ขั้นตอนแรกในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรคือ การกำหนดค่านิยมหลัก พันธกิจ และวิสัยทัศน์ขององค์กรอย่างชัดเจน องค์ประกอบเหล่านี้ควรสะท้อนถึงสิ่งที่องค์กรยึดมั่น จุดหมายปลายทาง และหลักการที่ชี้นำการดำเนินงาน ควรสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั่วทั้งองค์กรเพื่อให้มั่นใจว่าค่านิยมเหล่านี้เป็นตัวแทนที่แท้จริงและทุกคนสามารถใช้เป็นหลักร่วมกันได้
⮕ (ท่านสามารถอ่านรายละเอียดการกำหนดชุดค่านิยมได้ที่นี่)
2) ดึงพนักงานทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วม
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่เพียงหน้าที่ของฝ่ายบริหารเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของพนักงานทุกระดับ ส่งเสริมการรับฟังความคิดเห็น ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และสร้างโอกาสให้พวกเขามีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรมดีๆร่วมกัน การยกย่องและให้รางวัลแก่พฤติกรรมที่สอดคล้องกับพฤติกรรมที่ต้องการ ยังช่วยเสริมความสำคัญและคุณค่าของวัฒนธรรมนั้นอีกด้วย
3) ปรับนโยบาย กระบวนการ และแนวปฏิบัติขององค์กรให้สอดคล้อง
เพื่อให้วัฒนธรรมองค์กรฝังรากลึก นโยบาย กระบวนการ และแนวปฏิบัติขององค์กรจะต้องสอดคล้องกับชุดค่านิยมที่กำหนดไว้ ซึ่งรวมถึง แนวทางการคัดเลือกพนักงาน กระบวนการต้อนรับพนักงาน (Onboarding process) ระบบการบริหารผลงาน (Performance management system) และแม้แต่การประชุม ทุกแง่มุมของการดำเนินงานขององค์กรควรเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ต้องการ
4) สื่อสารวัฒนธรรมองค์กรอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ
การสื่อสารให้ชัดเจนและสม่ำเสมอทั่วทั้งองค์กรนี้ไม่ได้หมายถึงแค่เพียงคำพูดเท่านั้น แต่ต้องฝังอยู่ในทุกการกระทำและการตัดสินใจประจำวันของบริษัท ผู้นำมีบทบาทสำคัญในการเป็นแบบอย่างของค่านิยมเหล่านี้ กำหนดทิศทางให้พนักงานคนอื่นๆ ปฏิบัติตาม
5) ประเมิน วัดผล และปรับกลยุทธ์
การปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรเป็นกระบวนการที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง หมั่นวัดผลกระทบของวัฒนธรรมองค์กรต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจและความพึงพอใจของพนักงานผ่านแบบสำรวจและกลไกการรับฟังความคิดเห็นอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ เตรียมพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์และแนวปฏิบัติตามผลตอบรับนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าวัฒนธรรมยังคงสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรและความต้องการของพนักงาน
6) ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
วัฒนธรรมองค์กรส่งเสริมการเติบโต การเรียนรู้ และการพัฒนา การให้โอกาสพนักงานพัฒนาทักษะและก้าวหน้าในอาชีพภายในองค์กร เสริมสร้างวัฒนธรรมและสนับสนุนวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณไปยังพนักงานว่าองค์กรลงทุนในความสำเร็จและความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาในระยะยาว
7) เฉลิมฉลองความสำเร็จและเรียนรู้จากความล้มเหลว
เฉลิมฉลองความสำเร็จที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กร การยกย่องความสำเร็จของบุคคลและทีมงาน เสริมสร้างความสำคัญของวัฒนธรรมและกระตุ้นให้ผู้รอบข้างนำค่านิยมเหล่านี้ไปใช้ในงานของตนเอง ในทำนองเดียวกัน การมองความล้มเหลวเป็นโอกาสการเรียนรู้ แทนที่จะเป็นสาเหตุของการลงโทษ ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการสร้างสรรค์ การกล้าเสี่ยง และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
✦ บทบาทของผู้นำในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ?
ความสำเร็จในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วม ความมุ่งมั่น และพฤติกรรมของผู้นำองค์กรเป็นอย่างมาก ผู้นำเปรียบเสมือนสถาปนิกและทูตของวัฒนธรรมองค์กร มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา เสริมสร้าง และปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม เรามีข้อแนะนำเรื่องบทบาทสำคัญของผู้นำในการนำวัฒนธรรมองค์กรแบบจงใจไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพภายในองค์กร
1) การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นอีกบทบาทสำคัญที่ผู้นำมีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรม ผู้นำต้องสื่อสารความสำคัญของวัฒนธรรม ค่านิยมพื้นฐาน และพฤติกรรมที่คาดหวังจากพนักงานทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ การสื่อสารนี้ไม่ควรเป็นเพียงกิจกรรมครั้งเดียว แต่เป็นการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมและแก้ปัญหาหรือความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้น ผ่านการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ ผู้นำสามารถรักษาให้วัฒนธรรมยังคงความมีชีวิตชีวาและเป็นจุดสนใจสำคัญขององค์กร
2) เป็นแบบอย่างของพฤติกรรมที่พึงประสงค์
เครื่องมือที่มีพลังมากที่สุดที่ผู้นำมีในการสร้างวัฒนธรรม อาจเป็นพฤติกรรมของพวกเขาเอง ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างของค่านิยมและพฤติกรรมที่พวกเขาต้องการเห็นทั่วทั้งองค์กร ตั้งแต่การจัดการความขัดแย้ง การตัดสินใจ การเฉลิมฉลองความสำเร็จ และการเรียนรู้จากความล้มเหลว ด้วยการเป็นแบบอย่างของพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ผู้นำจึงกำหนดมาตรฐานสำหรับสิ่งที่คาดหวังภายในองค์กร
3) ปรับแนวทาง ระบบ และกระบวนการ
ผู้นำยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาว่าระบบ นโยบาย และกระบวนการขององค์กร สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ต้องการหรือไม่ เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างชุดค่านิยม ตัวอย่างเช่น กระบวนการคัดเลือกควรคัดกรองหาผู้ที่มีความเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กรเข้ามาทำงาน ระบบการบริหารผลงานควรให้รางวัลแก่พฤติกรรมที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม และโปรแกรมพัฒนาผู้นำควรปลูกฝังผู้นำรุ่นใหม่ที่ยึดมั่นในค่านิยมเหล่านี้
4) การปลูกฝังผู้นำทุกระดับ
ผู้นำต้องปลูกฝังผู้นำระดับรองลงมาทุกระดับในองค์กร วัฒนธรรมองค์กรแบบจะเติบโตเมื่อพนักงานทุกระดับรู้สึกในการเป็นเจ้าของวัฒนธรรมองค์กรนี้ มีโอกาสนำเสนอความคิดเห็น และเป็นผู้นำโดยการเป็นตัวอย่าง องค์กรจะสามารถมั่นใจได้ว่าชุดค่านิยมจะได้รับการปฏิบัติในทุกทีมและแผนก เพิ่มพูนผลกระทบไปทั่วทั้งองค์กร
หัวใจสำคัญของการนำวัฒนธรรมที่ตั้งใจไว้นี้ไปปฏิบัติอย่างสำเร็จ คือ บทบาทของผู้นำ ผู้นำไม่ใช่เพียงแค่สถาปนิกในการออกแบบวัฒนธรรมองค์กร แต่ยังเป็นผู้เผยแพร่ที่มีอิทธิพลมากที่สุด ผ่านการตัดสินใจ การสื่อสาร และการแสดงออกทางพฤติกรรม นอกจากนี้ยังสามารถฝังค่านิยมและบรรทัดฐานที่ต้องการไว้กับนโยบาย ระบบและกระบวนการที่สำคัญๆ ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้วัฒนธรรมนั้นถูกดูดซึมและปฏิบัติอย่างแท้จริงทั่วทั้งองค์กร
— ท้ายสุดนี้…ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม วัฒนธรรมองค์กรจะเกิดขึ้นอยู่ดี ทำไมเราไม่มาสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบที่เราอย่างเห็นกันละ
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
CorporateCulture
OrganizationalCulture
.
.