ปี 2022 เป็นปีที่จะมีความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นในโลกธุรกิจ และในสภาวะแบบนี้เองทำให้การหันมาใส่ใจวัฒนธรรมองค์กรก็เริ่มกลายเป็นไฮไลต์หนึ่งของปีนี้ ในฐานะที่ปรึกษาในด้านนี้ทาง A Cup of Culture เองก็พบว่ามีองค์กรที่เริ่มให้ความสนใจกับวัฒนธรรมองค์กรเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจริง ๆ และวันนี้เราจะมาดูกันว่าอะไรบ้างที่ทำให้ปี 2022 นี้เป็นปีแห่งการทำวัฒนธรรมองค์กร
===========
✴️ 1. เพราะความยืดหยุ่นจะกลายเป็นเรื่องถาวร
งานสำรวจของ Havard Business School พบว่า 81% ของพนักงานที่ทำงานที่บ้านในช่วงที่ผ่านมาไม่อยากที่จะต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศทุกวัน แต่ต้องการความยืดหยุ่นในการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัวที่นำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าเดิม
การที่องค์กรในปัจจุบันต้องเน้นความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้นแสดงให้เห็นว่าในอีกด้านหนึ่งองค์กรเริ่มแข่งกันดูแล well-being ของพนักงานในฐานะการดึงดูด และรักษา talent เช่นกัน ทั้งสองปัจจัยนี้แสดงให้เห็นความชัดเจนที่ว่าเทรนด์ของความยืดหยุ่นกำลังมา และวัฒนธรรมองค์กรสำคัญอย่างมากต่อเรื่องนี้
✴️ 2. Employee Recognition จะสำคัญอย่างมาก
เมื่อเราเข้าสู่ยุคของ Hybrid Work เหล่าพนักงานก็จะเริ่มมีวิถีชีวิตการทำงานของตัวเองในรูปแบบที่ต่างออกไปจากเดิม นั่นรวมถึงการสร้างความไว้วางใจ และการใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ engagement และ performance และหนึ่งในคีย์สำคัญของการทำให้พนักงานเกิด Engagement ก็คือ Employee recognition (Employee Recognition คือ การให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกถึงการรับรู้ในความสำเร็จที่พนักงานเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น หรือการแสดงความชื่นชมในผลลัพธ์ของความสำเร็จนั้น ๆ)
แม้กระนั้นก็ตาม จากรายงานของ Quantum Workplace กลับพบว่าเทรนด์ของการให้ recognition กับพนักงานกับลดลงในหลาย ๆ องค์กร โดยก่อนหน้านี้พบว่า 81% ของพนักงานรายงานว่าพวกเขาได้รับ recognition อย่างเหมาะสม แต่ในเมื่อเร็ว ๆ นี้ตัวเลขนั้นลดลงเหลือ 72% แสดงให้เห็นถึงการที่องค์กรเริ่มไม่สนใจการให้ recognition กับพนักงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่จะส่งผลเสียต่อองค์กรในระยะยาวโดยเฉพาะในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ นั่นทำให้องค์กรที่หันมาเน้น employee recognition ในช่วงนี้ถึงเป็นที่ที่ดึงดูดเหล่า talent ได้อย่างดี
✴️ 3. การเชื่อมต่อกันในรูปแบบใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร
ADP Research Institute พบว่าในสหรัฐอเมริกาพนักงานที่รู้สึกว่าได้มีการติดต่อกับเพื่อนร่วมงานอย่างเพียงพอจะรู้สึกมีส่วนร่วมกับองค์กรได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ค่อยได้ติดต่อถึง 75 เท่า เพราะการติดต่อสื่อสารเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญของ employee engagement เหล่าองค์กรจะต้องหันมาสนใจรูปแบบการทำงานแบบที่มีพนักงานเป็นศูนย์กลางมากขึ้น โดยอ้างอิงจากงานสำรวจของ Gartner สิ่งที่สามารถทำได้ เช่น การทำ Diversity and Inclusion โปรแกรม ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมา และเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมองค์กรอย่างมาก
✴️ 4. การพัฒนาคนจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าเดิม
งานปัจจุบันมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้เหล่าทีมงานของทุก ๆ องค์กรก็ต้องมองหาวิธีการต่าง ๆ ในการพัฒนาตัวเอง เพราะหากพนักงานไม่มีโอกาสในการพัฒนาตัวเองในสถานการณ์เหล่านี้ จะทำให้พวกเขารู้สึกไม่เดินหน้าไปไหน และขาดความท้าทาย
ด้วยกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาตัวเองของพนักงาน มันจะทำให้พนักงานรู้สึกมั่นใจกับองค์กรมากขึ้น และช่วยทำให้พวกเขาพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ตลอดเวลา พร้อม ๆ กับเพิ่มคุณค่าให้กับตัวพนักงาน และสร้างข้อได้เปรียบให้กับองค์กร
✴️ 5. เทคโนโลยีด้านวัฒนธรรมองค์กรกำลังเพิ่มขึ้น
รายงานเมื่อปี 2021 ของ O.C. Tanner พบว่า ถ้ามีเทคโนโลยีที่เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรเข้ามาช่วยงานนั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้าง engagement กับพนักงานถึง 5 เท่า และลดควาเหนื่อยล้าในการทำงานของพนักงานลงได้ถึง 47% และในยุคที่พนักงานมีการกระจายตัวมากกว่าเดิมเทคโนโลยีด้านวัฒนธรรมองค์กรจึงกลายมาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อการทำงานร่วมกันในแบบ Hybrid นี้ในฐานะเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ เพิ่มการติดต่อสื่อสาร และช่วยติดตามความคืบหน้าของงาน
===============
ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่าเทรนด์ของการทำงานรูปแบบใหม่ และความสำคัญของการสร้าง employee enagement นั้นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ องค์กรเริ่มหันมาใส่ใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กรกันเป็นพิเศษ และเราก็หวังว่าปี 2022 นี้จะเป็นปีที่หลาย ๆ องค์กรได้เริ่มต้นมีวัฒนธรรมองค์กรในแบบของตัวเองกันมากขึ้น
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
Corporate culture
Organizational culture
.
.
>>>
.
.
>>>