เมื่อไรควรจ้างที่ปรึกษา เมื่อไรควรทำเอง

ทำเองก็ได้…ทำไมต้องจ้าง Consultant? 🤔คำถามนี้อาจเคยอยู่ใจของใครหลาย ๆ คน ทั้งองค์กรที่เคยเสียเงินจ้าง และองค์กรที่เลือกทำเองเป็นหลัก…


ในด้านหนึ่ง เลือกเสียเงินจ้างให้เข้ามาช่วยสร้าง Impact ในเชิงธุรกิจหรือ Efficiency ต่างๆ ได้เรียนรู้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆจาก Firm เหล่านั้น และนำไปต่อยอดเอง ได้ Know-how ในแบบฉบับของตน ไม่ต้องเสพติดในระยะยาว


อีกด้านหนึ่งเสียเงินไปหลายล้านแต่กลับไม่ได้อะไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร หรือได้ผลน่าพอใจแต่ก็ต้องผูกปิ่นโตกันไปในระยะยาว เพราะเมื่อที่ปรึกษาจากไป เราก็ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ (หลายครั้งเป็นความตั้งใจของที่ปรึกษาโดยที่เราไม่รู้ตัว)


ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง หลายองค์กรเลือกที่จะใช้การเรียนรู้ด้วยตัวเอง หรือจ้างคนที่มีความรู้มาเป็นพนักงานประจำและทำงานนั้นๆ ซึ่งหาก scale ของงานไม่ใหญ่มาก และไม่ได้ต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ การทำด้วยตัวเองก็น่าจะประหยัดกว่ามาก แต่หลายองค์กรก็เสียน้อยเสียอยาก ใช้เวลาทำเองตั้งแต่พัฒนาคน ไปจนถึงขั้นทำเองได้จนได้ผลลัพธ์ตอบกลับมาระดับ B สรุปรวมเวลาไปหลายปี


ไม่ว่าเรื่องที่ท่านต้องการจะปรึกษาจะเป็นเรื่องใด Strategy and Management, Operations, IT หรือ HR แนวคิด 5 ประการในการจ้างปรึกษานี้อาจเป็นตัวช่วยตัดสินได้ว่าเมื่อไรควรจ้าง เมื่อไรควรทำเอง…..


1) ความชำนาญและประสบการณ์


เริ่มต้นด้วยการลองค้นหาภายในองค์กรก่อนว่า มี Expertise หรือ Resource นั้นอยู่หรือไม่ คนๆนั้นพร้อมที่จะไปถึงเป้าหมายของโครงการหรือความยั่งยืนของการแก้ปัญหานั้นๆ หรือเปล่า หรือหากงานนั้นเสร็จสิ้นแล้ว เรายังจำเป็นต้องใช้ Expertise หรือ Resource นั้นต่อไปหรือไม่
ถ้าคำตอบคือทั้งสอง “ไม่” เราควรเลือกที่จะจ้าง ..


✅ 2) เวลาที่ใช้กับผลัพธ์ที่ต้องการ


กระบวนการทำงานใหม่ที่สำคัญมากๆ หากทำกันเองอาจเสียเวลามากเพราะเราไม่เคยทำมาก่อนและไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือใหม่ ที่ปรึกษา คือ ผู้ที่มีประสบการณ์นั้น และผ่านปัญหามามากมาย อาจช่วยแนะนำทางลัดหรือ Best Practice ที่มีอยู่แล้วที่เหมาะกับประเด็นในองค์กรได้เลย การประหยัดเวลาและเริ่มกระบวนการทำงานใหม่ๆได้เร็วอาจหมายถึง Impact ที่มากขึ้น..


3) มุมมองต่อปัญหา


การแก้ปัญหากันเองภายในอาจมาถึงจุดที่ตันไม่มีอะไรใหม่ๆ ที่ปรึกษาจะช่วยขยายมุมมองให้กว้างขึ้น เป็นมุมของคนนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย การกระตุ้นของที่ปรึกษาสามารถช่วยเราให้คิดออกไปนอกกรอบที่มีอยู่นำมาซึ่งวิธีการใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ..


4) มิติการเมืองในองค์กร


หลายๆ ครั้งในองค์กรก็ไม่ได้ตรงไปตรงมาในทุกๆ เรื่อง การแก้ปัญหาหรือตัดสินใจบางด้านด้วยคนภายในกันเอง อาจเป็นประเด็นละเอียดอ่อน เช่น การตัดงบประมาณ การให้คนออก การปรับตัวชี้วัดที่อาจทำให้บางกลุ่มได้หรือเสียประโยชน์ การมีคนนอกเข้ามาช่วยเป็น Power Player อาจช่วยทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้..


5) องค์ความรู้ใหม่ๆ


ผลพลอยได้อีกอย่างจากการมีที่ปรึกษาคือองค์ความรู้ใหม่ๆที่พวกเข้าตั้งใจหรืออาจไม่ได้ตั้งใจถ่ายทอดให้เรา เพราะการใช้องค์ความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลเชิงลึก ถือเป็นเครื่องมือหลักของทีมที่ปรึกษา หากองค์กรมีวิธีในการเรียนรู้และซึมซับมันออกมาได้ เราจะได้ประโยชน์ในระยะยาวโดยไม่ต้องเสพติดแบบเลิกไม่ได้แบบหลายๆองค์กร ..


หากแนวคิดทั้ง 5 นี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจของท่าน อาจจะด้วยเหตุผลเรื่อง ขนาดของประเด็นที่จะแก้ หรือ Impact ที่ไม่ใหญ่มากนัก รวมถึงระยะเวลาที่ท่านมีมากพอที่จะลองผิดลองถูกและเรียนรู้กันไป หรือแม้แต่การบริหารการเมืองภายในที่ผู้นำทำได้อย่างดีเยี่ยม ก็ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องไปเสียเงินทองมากมายจ้างที่ปรึกษาแต่อย่างใด..


A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture
.
.
.

.
.
.
แหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.entrepreneur.com/article/320051

https://www.industryweek.com/leadership/companies-executives/article/22007366/inside-vs-outside-when-to-hire-a-consultant

https://www.forbes.com/sites/forbescoachescouncil/2018/11/29/five-common-misconceptions-about-hiring-a-management-consultant/#8a7fea1a44f8

Share to
Related Posts:
Search

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search