“กฏมีไว้สำหรับทุกคนยกเว้นฉัน” 5 แนวทางแก้ Leadership Immunity ก่อนวัฒนธรรมองค์กรจะพัง

ทำไม..ลูกน้อง 58% ไว้ใจคนอื่นมากกว่านายตัวเอง?“Do as I say not as I do” ประโยคปวดใจนี้แม้ผู้นำหลายท่านอาจไม่ได้พูดมันออกมา แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายท่านมีพฤติกรรมแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว มีตัวอย่างมากมายที่แสดงถึงภาวะผู้นำที่ล้มเหลวของผู้นำในระดับต่างๆ ทั่วโลกและสิ่งที่มักดึงความสนใจคนให้มาวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคือ #ภาพของการไม่ปฎิบัติหรือมีพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้ เช่นผู้นำแหกกฏเสียเอง หรือแม้กระทั่งการไม่เป็นแบบอย่างในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องวัฒนธรรมองค์กร


จนมีคำถามว่าเป็นเพราะเหตุใดคนที่อยู่ท่ามกลางแสงสปอทไลท์ของคนในองค์กร กลับกล้าที่จะเป็นเสียเอง! เหตุผลง่ายเลยคือเพราะพวกเขาเชื่อว่ามีภูมิคุ้มกันต่อผลที่จะตามมาจากการพูดอย่างแต่ทำอีกอย่าง (leadership immunity) ข้อตกลงหรือกฏต่างๆที่ประกาศใช้นั้นไม่ได้มีสำหรับพวกเขาหากแต่ไว้ใช้กับคนทั่วๆไป


สิ่งสำคัญที่ส่งผลให้พวกเขาเชื่อแบบนั้นคือ #พลังด้านลบของคำว่าอำนาจ มันทำให้ง่ายต่อการทำอะไรๆ โดยพลการ ขาดการคำนึงถึงผลที่ตามมา และมืดบอดต่อการมองอะไรๆจากมุมมองผู้อื่น จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งของ Ultimate Software พบว่า
ผู้นำ 80% เชื่อว่าพวกเขาโปร่งใสในทุกเรื่อง
แต่มีพนักงานเพียง 55% ที่คิดแบบนั้น
และที่หนักไปกว่านั้นคือ 71% เชื่อว่าพวกเขาเข้าใจการจูงใจทีมงาน
แต่มีพนักงานเพียง 44% ที่เห็นด้วยกับมัน


เหตุผลสำคัญที่อาจเรียกว่า”ข้ออ้าง” ก็คือพวกผู้นำ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงต้องทำงานหลายหน้า สัมผัสคนหลายกลุ่ม หลายประเภทซึ่งทำให้ต้องขาดความเสมอต้นเสมอปลายไปบ้างเพื่อจะปรับตัวให้ตรงต่อสถานการณ์ต่างๆ และนี่คือแนวทางที่จะช่วยให้ผู้นำที่รู้ตัวว่าตนมีพฤติกรรมไปในแนว leadership immunity และอยากลดปัญหาต่างๆที่อาจจะตามมาจากพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ดังกล่าว


==================


1. หา Blind Spots ให้เจอ
95% ของผู้นำเชื่อว่าตัวเองรู้ตัวดีว่าตนแนอย่างไร แต่มีลูกน้องเพียง 10-15% ที่เชื่อแบบนั้น ผู้นำต้องการกระจกมองข้างและมองหลังเพื่อจะเห็นตัวเองให้ครบด้าน การออกแรงขอ feedback จากทีมงานมากกว่าจะคอยแต่เป็นผู้ให้

✅2. ยอมรับว่าเราไม่ได้รู้ไปเสียทุกเรื่อง
เป็นการยากสำหรับคนเป็นผู้นำที่จะยอมรับว่าเราไม่รู้ ผู้นำเก่งๆจะมี intellectual humility ที่จะไม่กล้าฟันธงไปเสียทั้งหมด แต่เลือกที่จะเปิดหูรับฟังให้มากและหาหลักฐานก่อนตัดสินใจ

3. อย่ารายล้อมด้วย Mr.Yes
คนอยู่เป็นเลือกที่จะพูดแต่สิ่งที่ผู้นำของเขาอยากได้ยิน ซึ่งหากท่านมีแต่คนแบบนี้รอบตัวก็ต้องเปลี่ยนแนวทางเป็นการท้าทายให้กล้าขัดใจท่าน ส่งเสริมให้ challenge กันและกันจนเป็นความเคยชิน

4. รักษามาตรฐานให้สูงกว่าคนอื่นๆ
การพูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างเป็นการทำลายวัฒนธรรมองค์กรด้วยมือของท่านเอง ความเสมอต้นเสมอปลายในบทบาทและความเป็นแบบอย่างขั้นสูงสุดเป็นเรื่องที่จะให้ผลตรงกันข้าม

✅5. เปิดโอกาสให้คนลองผิดลองถูก
Super Power ของผู้นำก็นำมาด้วยอีโก้ขนาดยัก์เช่นกัน ผู้นำยุคใหม่ควรลดอีโก้และเปิดโอกาสให้คนรอบข้างได้เริ่มสิ่งใหม่ๆ ลองเชื่อในการทดลองและยอมรับกับความล้มเหลวเพื่อการเรียนรู้ของทีมและผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว
.


A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture
.
.

.
>
แหล่งข้อมูล
https://www.fearlessculture.design/blog-posts/how-unwritten-rules-shape-your-culture-unlike-your-vision
https://www.ultimatesoftware.com/PR/Press-Release/New-National-Study-Conducted-by-Ultimate-Software-Reveals-Need-for-Greater-Focus-on-Manager-Employee-Relationships
https://hbr.org/2016/07/a-global-survey-on-the-ambiguous-state-of-employee-trust
https://psycnet.apa.org/record/2020-70962-001

.
>>

Share to
Related Posts:
Search

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search