6 Change Management Models (โมเดลการบริหารการเปลี่ยนแปลง) ที่ช่วยชีวิตองค์กรมาแล้วทั่วโลก


“การเปลี่ยนแปลง” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน ความก้าวหน้าของเศรษฐกิจหรือแม้กระทั่งการแพร่ระบาดของโรคที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรและแม้กระทั่งวิถีชีวิตของเรา การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คำคมที่ว่า “ความแน่นอนเดียวในชีวิตคือความไม่แน่นอน” เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความจริงในโลกปัจจุบัน


เพื่อให้สามารถปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน เราจำเป็นต้องเรียนรู้และนำเสนอวิธีการจัดการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะขอนำเสนอแนวคิดและวิธีการจัดการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างกว้างขวางในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดที่มีความเกี่ยวข้องกับการมองเห็นในเชิงองค์กร การปรับปรุงทักษะของบุคลากร หรือการสนับสนุนให้ผู้คนปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ทำงาน


ในการจัดการเรื่องการเปลี่ยนแปลงในองค์กร มีหลายโมเดลที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มาดูกันว่ามีโมเดลไหนบ้าง:


1. Lewin’s Change Management Model:


โมเดลนี้พัฒนาโดยนักจิตวิทยา Kurt Lewin ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ การละลายพฤติกรรม (Unfreeze) การเปลี่ยนแปลง (Change) และการเกิดพฤติกรรมใหม่ (Refreeze) โมเดลนี้เน้นการเตรียมองค์กรให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง การดำเนินการเปลี่ยนแปลง และการยึดติดการเปลี่ยนแปลงลงในวัฒนธรรมองค์กร.

การบริหารการเปลี่ยนแปลง


2. Kotter’s 8-Step Change Model:


โมเดลนี้สร้างขึ้นโดย John Kotter ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประกอบด้วย 8 ขั้นตอนคือ สร้างความรู้สึกถึงความเร่งด่วน (Create a Sense of Urgency) สร้างกลุ่มผู้นำ (Build a Guiding Coalition) กำหนดวิสัยทัศน์และนโยบาย (Form a Strategic Vision and Initiatives) รับสมัครกองทหารอาสา (Enlist a Volunteer Army) ทำให้เกิดการกระทำโดยการขจัดอุปสรรค (Enable Action by Removing Barriers) สร้างความสำเร็จในระยะสั้น (Generate Short-term Wins) รักษาอัตราเร่ง (Sustain Acceleration) และประมวลผลการเปลี่ยนแปลง (Institute Change)

การบริหารการเปลี่ยนแปลง


3. McKinsey 7S Model:


โมเดลนี้พัฒนาโดย Tom Peters และ Robert Waterman จากค่าย McKinsey โมเดลนี้เน้นความสัมพันธ์ระหว่าง 7 องค์ประกอบสำคัญขององค์กร ได้แก่ กลยุทธ์ (Strategy) โครงสร้าง (Structure) ระบบ (Systems) ค่านิยม (Shared Values) ทักษะ (Skills) ลักษณะการนำ (Style) และ บุคลากร (Staff) ดังนั้น ทุกพื้นในโมเดลนี้มีความเชื่อมต่อถึงกัน หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่หนึ่งจะมีผลกระทบต่อพื้นที่อื่นๆ ด้วย และถูกแบ่งออกเป็นด้าน Hard เป็นเรื่องการจัดการ กลยุทธ์ และการเปลี่ยนแปลง ด้าน Soft เป็นเรื่องของผู้คน ทักษะ และวัฒนธรรมขององค์กร

การบริหารการเปลี่ยนแปลง


4. The Prosci ADKAR® Model


เป็นหนึ่งในองค์กรที่นำด้านการวิจัยในการจัดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งได้พัฒนากระบวนการจัดการเปลี่ยนแปลง โดยรวมระหว่างโมเดล กับประสบการณ์ดีที่สุดในการจัดการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดกระบวนการจัดการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุม ซึ่งมี 5 ขั้นตอนสำคัญได้แก่

A – Awareness หรือ ตระหนักรู้ในความจำเป็นของความเปลี่ยนแปลง

D – Desire หรือ ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง

K – Knowledge หรือ มีความรู้ว่าจะเปลี่ยนอย่างไร

A – Ability หรือ มีความสามารถในการลงมือที่จะเปลี่ยนแปลง

R – Reinforcement หรือ ได้รับการเสริมแรงเพื่อให้ความเปลี่ยนแปลงนี้ยั่งยืน

อ่านเพิ่มเติม https://www.brightsidepeople.com/เปลี่ยนคน-แปลงองค์กร-อย่/

การบริหารการเปลี่ยนแปลง


5. Bridges’ Transition Model:


โมเดลนี้พัฒนาโดย William Bridges ที่เน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงในด้านจิตวิทยาของบุคคล กล่าวคือ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางและลงตัว (โดยเฉพาะในเชิงอารมณ์) คนเราต้องผ่านขั้นตอนแรกที่สำคัญยิ่ง คือ ขั้นตอนของความกลัว ของการสิ้นสุด และการสูญเสีย (Ending, Losing or Letting Go) จากนั้นเข้าสู่ช่วงกลาง คือ ขั้นตอนของความสับสน วิตกกังวล กังขา หรือไม่เชื่อ (The Neutral Zone) และจบลงที่การเริ่มต้นใหม่ (The New Beginning) คือ สภาวะของอารมณ์ตื่นเต้น เต็มไปด้วยพลัง และพร้อมแล้วที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงหรือเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ

การบริหารการเปลี่ยนแปลง


6. The Burke-Litwin Model:


โมเดลนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักจิตวิทยาองค์กร George H. Litwin และ W. Warner Burke โมเดลนี้เน้นการระบุ 12 ตัวแปรสำคัญที่สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ได้แก่ (1) สภาพแวดล้อมภายนอก (2) พันธกิจและกลยุทธ์ (3) การนำ  (4) วัฒนธรรมองค์กร (5) โครงสร้าง (6) ระบบ (7) แนวปฏิบัติด้านการจัดการ (8) บรรยากาศการทำงาน (9) ภาระงานและทักษะส่วนบุคคล (10) ค่านิยม (11) ระดับแรงจูงใจ และ (12) ประสิทธิภาพส่วนบุคคลและองค์กร โมเดลนี้ช่วยองค์กรในการวินิจฉัยปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและวิธีที่ปัจจัยเหล่านี้สัมพันธ์กัน รวมถึงวางแผนการเปลี่ยนแปลงองค์กร

การบริหารการเปลี่ยนแปลง


:::::::::::::::::
แต่ละโมเดลนี้ให้มุมมองและวิธีการที่แตกต่างกันในการจัดการเรื่องการเปลี่ยนแปลง องค์กรมักเลือกโมเดลตามความต้องการ เส้นทางการดำเนินงาน และผลลัพธ์ที่ต้องการจากการเปลี่ยนแปลง ในการเลือกใช้โมเดลการจัดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรของท่าน ท่านควรพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เช่น ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังดำเนินการ ขนาดขององค์กร วัฒนธรรมองค์กร และการสนับสนุนจากผู้นำ การทบทวนและประเมินความเหมาะสมของแต่ละโมเดลจะช่วยให้ท่านสามารถตัดสินใจเลือกโมเดลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กรของท่าน


โมเดลที่เสนอมาทั้งหมดนี้มีจุดเน้นที่แตกต่างกัน การเลือกใช้โมเดลที่เหมาะสมอาจขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวกับความต้องการขององค์กร อย่างไรก็ตาม การรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการเปลี่ยนแปลง และการมีความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงจะเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกโมเดลการจัดการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ของท่าน


A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
CorporateCulture
OrganizationalCulture
.
.

ball
ball
Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn
Search

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search