ทำไมปี 2023 หลายองค์กรถึงปลดพนักงานครั้งใหญ่.. ในขณะเดียวกันก็หาคนทำงานไม่ได้..

เราได้ยินข่าวการ layoff แทบทุกวันครับ วันนี้องค์กรนึงประกาศ layoff ยกใหญ่ อีกวันถัดมาก็อีกองค์กรประกาศปลดพนักงาน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วหลายองค์กรกลับยังคงประสบปัญหาของการหาคนมาทำงานไม่ได้ เรื่องนี้มันเป็นไปได้อย่างไรครับเนี่ย วันนี้มาดูกัน


ปกติแล้วการที่ตลาดแรงงานขาดคนมันจะมาจากการที่มีจำนวนคนที่งานในตลาดน้อยลง โดยการเกิดจากการเกษียณ หรือออกไปทำอาชีพส่วนตัว แต่ในยุคนี้เรากลับพบเทรนด์ที่พิเศษอย่างหนึ่งคือสาเหตุของการหาคนยาก หรือคนไม่พอกับงานในปัจจุบันนั้นมีสาเหตุมาจากการที่เหล่าพนักงานปัจจุบันพากันลดจำนวนชั่วโมงทำงานลงโดยมิได้นัดหมาย


::::::::::::::::::::::::::::::

โดยงานวิจัยล่าสุดพบว่าในขณะที่ช่วงมกราคมปี 2023 นี้มีการเหล่า HR ที่สหรัฐฯ ได้มีการลงตำแหน่งว่างกว่า 5 แสนตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าปกติถึง 3 เท่า อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 50 ปี นั่นทำให้ตอนนี้ที่สหรัฐมีตำแหน่งว่างอยู่เป็น 2 เท่าต่อคนว่างงานหนึ่งคน โดยปรากฏการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงของการฟื้นตัวจากโควิดเมื่อไม่นานมานี้ที่ทำให้ตัวเลขจำนวนชั่วโมงการทำงานโดยเฉลี่ยเปลี่ยนไป โดยเฉลี่ยแล้วชั่วโมงการทำงานในปี 2022 เทียบกับของ 2019 นั้นลดลงถึง 33 ชั่วโมงต่อปีสำหรับพนักงาน 1 คน


คำถามคืออะไรที่ทำให้พนักงานพากันลดจำนวนชั่วโมงทำงานลง ? พนักงานตั้งใจพากันอู้หรืออย่างไร


แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มาจากการที่นายจ้างบังคับให้ลดจำนวนชั่วโมงลง และนักวิจัยก็ตัดเรื่องของการที่จำนวนชั่วโมงลดลงเพราะป่วยเป็น Covid ออกไปแล้ว เพราะว่าการลดลงของชั่วโมงทำงานนี้ส่วนใหญ่เริ่มต้นในช่วงปี 2021 ถึง 2022 ซึ่งเป็นช่วงของการฟื้นตัวหลังจากที่การระบาดผ่านไปเรียบร้อยแล้ว


เราเลยต้องมาดูครับว่าพนักงานที่ลดจำนวนชั่วโมงการทำงานลง เขาเอาเวลาที่เหลือไปทำอะไรกัน ? และนักวิจัยก็พบว่าส่วนใหญ่เอาไปใช้กับการพักผ่อน และเข้าสังคม โดยคนแต่งงานแล้วคือกลุ่มที่ลดจำนวนชั่วโมงการทำงานลงมากที่สุด นั่นอาจหมายถึงว่าประสบการณ์ในช่วงของโควิดทำให้คนเราเปลี่ยนลำดับความสำคัญในชีวิตใหม่ และให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัว และ work-life balance มากขึ้นนั่นเอง


::::::::::::::::::::::::

และมาถึงตรงนี้เชื่อว่าคำถามสำคัญของทั้งนายจ้าง และ HR หลาย ๆ ท่านก็คือ แล้วเราต้องทำอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนี้กัน ?


สิ่งแรกคือเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น supply ของแรงงานที่ยังคงน้อย บวกกับ demand คนทำงานที่มากขึ้น สิ่งนี้ทำให้เหล่าพนักงานมีทางเลือกมากขึ้นที่จะหางานให้มี work-life balance มากขึ้น


นั่นหมายความว่าในการแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งแรงงานคุณภาพ นายจ้างต้องให้ความสำคัญกับการสร้าง work-life balance ในที่ทำงานอย่างจริงจังมากขึ้น มากกว่าแค่ทำเป็นการโปรโมทอย่างที่เราพบเห็นได้บ่อยในปัจจุบัน นั่นรวมไปถึงความยืดหยุ่นในการทำงานแบบ hybrid ที่ปัจจุบันถ้าองค์กรไหน hybrid ไม่ไห้ก็เก็บคนเก่งไว้ไม่ได้


อีกเรื่องที่นายจ้างควรพิจารณาคือการปรับระบบ และรูปแบบการทำงานใหม่เพื่อให้เวลาที่ได้จากพนักงานมีคุณภาพมากขึ้น เช่น กำจัดการประชุมที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุด และประชุมเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น


ทั้งหมดนั้นคือสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดแรงงานในขณะนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนายจ้าง และ HR ทุกท่านในการรับมือกับช่วงของการขาดคนที่กำลังเกิดขึ้น


A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
CorporateCulture
OrganizationalCulture
.
.

Reference:
https://hbr.org/2023/02/is-the-tight-labor-market-due-to-fewer-workers-or-fewer-hours-worked

Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn
Search

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search