Top 4 คุณลักษณะของ Digital Leadership ที่โลกธุรกิจในยุคดิจิทัล ตามหา

ภาวะผู้นำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด โดยเฉพาะภาวะผู้นำแบบดิจิตัล หรือ Digital leadership ยิ่งเป็นเหมือนแรร์ไอเทมสำหรับทุกองค์กร เพราะเมื่อถามจากผู้บริหารทั่วโลกกลับพบคำตอบไปในทางเดียวกันว่า ผู้บริหารต้องการผู้นำองค์กรในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ไม่อย่างนั้นจะเสียเปรียบอย่างมากต่อการแข่งขันที่กำลังเกิดขึ้น⁣

จากงานวิจัยของ MIT Sloan จาก 4,300 ผู้บริหารทั่วโลกพบว่า 68% บอกว่าเขาต้องการองค์กรของเขาต้องเปลี่ยนตัวผู้จัดการให้เหมาะกับโลกดิจิตัลมากขึ้นเพื่อให้องค์กรสามารถไปต่อได้ในโลกยุคใหม่ และที่น่าสนใจคือยิ่งเป็นองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้น หรือ Early-stage companies ยิ่งต้องการเปลี่ยนตัวผู้นำเพื่อให้ไปต่อได้ แต่คำถามที่กวนใจเหล่าผู้บริหาร และเหล่า HR เมื่อพูดถึงประเด็นนี้คือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรบ้างคือคุณสมบัติของเหล่าผู้นำแห่งยุค Digital Leadership และวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงคำตอบจาก MIT Sloan กัน⁣

MIT Sloan เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารกว่า 4,300 คนทั่วโลก เพื่อมองหาว่าถ้าพวกบริหารเหล่านี้มองว่าคุณสมบัติแบบไหนของผู้นำที่จะช่วยให้องค์กรของพวกเขาสามารถมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายในยุคดิจิตัลได้จริง ๆ และได้เลือกสิ่งที่เหล่าผู้บริหารมองตรงกันตามลำดับความเห็นพ้องต้องกันจนออกมาเป็น Top 4 คุณลักษณะของ Digital Leadership ที่จะพาให้องค์กรเป็นผู้นำด้านธุรกิจในโลกยุค Digital ได้สำเร็จก็คือ Direction, Innovation, Execution และ Collaboration โดยมีรายละเอียดดังนี้:⁣

=====================


🔸 1. Providing vision and purpose⁣

คุณสมบัติที่แทบจะทุก ๆ องค์กรต้องการเป็นอันดับหนึ่งเลยคือผู้นำในยุค Digital จะต้องให้ Direction ได้ หมายถึงการที่สามารถตั้งวิสัยทัศน์ และเป้าหมายให้กับทีมได้ หรือคือการเป็นเข็มทิศนำทางให้ทีมในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่การให้แค่ภาพเป้าหมายนั้นไม่เพียงพอ ผู้นำในยุคดิจิตัลจะต้องสามารถสร้างโอกาสให้ทีมงานของเขาได้สร้างภาพนั้นให้เกิดขึ้นจริงด้วย โดยเขาจะต้องมีความรู้พื้นฐานมากเพียงพอเพื่อที่จะมองเห็นสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน แต่ไม่จำเป็นต้องลงลึกเพื่อที่จะสามารถสามารถวาดภาพที่เป็นไปได้จริงให้กับทีมได้⁣

🔸 2. Create conditions to experiment⁣

Digital Leadership ต้องส่งเสริมตั้งคำถามและทำการทดลองเพื่อให้ได้คำตอบผ่านการลองผิดลองถูกตลอดเวลา หรือในรูปแบบที่เราเรียกว่า Agile แต่การทดลองทำอะไรใหม่ ๆ เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของหลาย ๆ องค์กรในการเข้าสู่ยุคดิจิตัล โดยเฉพาะองค์กรที่มีโครงสร้างองค์กรแบบดั้งเดิม และในการปรับตัวนี้กระบวนการสำคัญในการสร้างให้มันเกิดขึ้นได้เริ่มจาก:⁣

  • การสรรหาพนักงานที่รับความเสี่ยงได้สูง⁣
  • สร้างสภาพแดวล้อมที่ส่งเสริมให้เขาเสี่ยง ที่ให้รางวัลแม้จะล้มเหลว⁣
  • มี Platform ที่พวกเขาสามารถเริ่มทำอะไรได้เลยทันที⁣
    เพราะในโลกดิจิตัลไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป สิ่งเดียวที่ผู้นำในยุคนี้ต้องทำคือการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมให้ทีมงานได้ลองผิดลองถูกแม้ไม่รู้ว่าผลลัพท์จะเป็นอย่างไร เพื่อให้องค์กรได้เดินไปข้างหน้าอย่างทีละก้าว⁣


🔸 3. Empower people to think differently⁣

ในด้านของการปฏิบัติงาน Digial Leaders ต้องเอื้อให้ทีมงานของตัวเองคิดต่างออกไปได้ และลงมือทำในวิธีที่แตกต่างจากเดิม แต่การคิดต่างนี้นอกจากการคิดนอกกรอบตามปกติแล้วยังรวมไปถึงคิดต่อไปยังความคาดหวังใหม่ ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ของลูกค้า และคิดไปให้ถึงการเตรียมรับมือ คุณสมบัติของผู้ในการเอื้อให้สภาพแวดล้อมนี้เกิดขึ้นเรียกว่าเป็นเหรียญอีกด้านหนึ่งของการให้ Direction กับทีมเลยก็ว่าได้ เพราะมันคือการที่หลังจากตัวผู้นำกำหนดเป้าหมายมาแล้วก็ต้องส่งเสริมให้ทีมงานของเขาได้มีสิทธิมีเสียง มีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็น และลงมือทำในแบบที่แตกต่างกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะในยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผู้นำต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นไม่สามารถที่จะมีคำตอบที่ดีที่สุดได้เสมอไป การส่งเสริมให้ทีมงานคิดแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์เป้าหมายได้ด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ⁣

🔸 4. Enable collaboration across boundaries⁣

ข้อสุดท้ายของคุณลักษณะที่ผู้นำในยุคดิจิตัลควรมีคือการ Collaboration และไม่ใช่เพียงแค่การทำงานร่วมกันระหว่างแผนก โดยปัจจุบันเมื่อถามเหล่าผู้จัดการว่าอะไรคืออุปสรรคในการทำงานร่วมกันในองค์กรคำตอบส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบของ Culture, Mindset และความแบ่งฝ่ายกันเอง แต่พอเราซูมออกมาแล้วมองเราจะเห็นว่าเรื่องเหล่านี้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปแล้ว เพราะในโลกดิจิตัลนั้นนอกเหนือจากการ collaborate ภายในกันเองแล้วการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรก็เป็นสิ่งจำเป็นยิ่งกว่าเมื่อโลกเปิดกว้างให้คนสามารถทำงานร่วมกันข้ามพรมแดนได้ง่ายขึ้น การที่องค์กรจะแข่งขันได้ก็ต้องใช้ประโยชน์จากการมันให้ได้เช่นกัน⁣

====================⁣


นอกจากการที่ MIT Sloan จะค้นพบ 4 คุณสมบัติที่เป็นที่ต้องการในตัว Digital Leadership แล้วในการที่องค์กรจะได้คนเหล่านี้มา ไม่ว่าด้วยการพัฒนาพนักงานเดิม หรือจ้างคนใหม่ MIT Sloan ก็ทำการค้นหาต่อว่าองค์กรที่ประสบความสำเร็จในด้าน Digital Transfor-mation นั้นใช้วิธีการแบบไหน⁣

โดยเขาเริ่มจากการแบ่งองค์กรออกเป็น 3 ระดับตามความเติบโตด้านเทคโนโลยี โดยอ้างอิงจากช่องว่างระหว่างองค์กรในอุดมคติในมุมผู้บริหาร เทียบกับสถานะปัจจุบันขององค์กรโดยองค์กรที่ยังห่างมาก ๆ คือเป็น Early-stage กลาง ๆ คือ Developing-stage และท้ายสุดที่ใกล้มาก ๆ คือ Maturing-stage และก็เริ่มศึกษาสิ่งที่องค์กรทั้ง 3 แบบทำแตกต่างกัน⁣

เขาค้นพบว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้องค์กรที่ Mature แล้วแตกต่างจากองค์กรที่กำลังพัฒนาอยู่ คือการที่กลุ่มแรกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนา และสรรหาคนที่มีคุณสมบัติทั้ง 4 ประการ ในขณะที่ องค์กรในระดับ Developing-stage นั้นเพียงแค่ตอบว่ารู้ว่าสิ่งเหล่านี้จำเป็น แต่ไม่ได้มีนโยบาย หรือการ Operation ในการส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างจริง ๆ จัง ๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากการที่เรารู้ว่าเราจะต้องการคนแบบไหนแล้ว องค์กรยังต้องจริงจังกับการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่แล้ว และที่กำหลังสรรหาเพิ่มให้สอดรับกับความสำคัญตรงนี้ด้วย⁣

A Cup of Culture⁣
———–⁣
วัฒนธรรมองค์กร⁣
corporate culture⁣
organizational culture⁣
.
.
>>>

อ้างอิง:

https://sloanreview.mit.edu/article/common-traits-of-the-best-digital-leaders/

https://sloanreview.mit.edu/projects/coming-of-age-digitally

https://sloanreview.mit.edu/article/maximizing-the-impact-of-enterprise-social-media/

.
.
>>>>

Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn
Search

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search