“บ้านปูฯ เชื่อในเรื่อง คุณค่าของคน จึงให้ความสำคัญกับคนมาก “บ้านปูฯ เชื่อว่าคนคือแหล่งพลังงาน ที่สำคัญที่สุด” ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของบ้านปูฯ ไม่ใช่เหมืองถ่านหิน ไม่ใช่โรงไฟฟ้า ไม่ใช่แหล่ง shale gas รถ EV ไม่ใช่ธุรกิจหรือเทคโนโลยีทางด้านพลังงานที่บริษัทมี แต่คือ “คน” คนคือแหล่งพลังงานที่ไร้ขีดจำกัดและยั่งยืนที่สุด”
การให้ความสำคัญกับ คน ทำให้บ้านปูฯ เปิดกว้างในทุกๆ จังหวะของการใช้ชีวิตที่นี่ บ้านปูฯ สนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้ปลดปล่อยพลังงานและศักยภาพของตัวเองได้อย่างสูงสุด ด้วยการจัดสรรงบประมาณ 5% ของเงินเดือนทั้งหมดต่อปี ในการพัฒนาพนักงานในทุกประเทศ โดยไม่มีการตัดออกไม่ว่าบริษัทจะอยู่ในสถานการณ์ใด และเปิดกว้างมอบอิสระในการทำงาน ให้ทุกคนมีพลังสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ผ่านการทำงานที่ยืดหยุ่น จากระบบสวัสดิการ Flexi Benefit ที่ให้พนักงานมีสิทธิ์เลือก จัดสรรเวลาเข้าออกการทำงานได้เอง, นโยบาย Work Anywhere ที่มีมาตั้งแต่ปี 2008 โดยพนักงานจะทำงานจากที่ไหนก็ได้มากถึง 3 ครั้งต่อเดือน หรือจะใช้สวัสดิการความสุขเพิ่มเติม ในการซื้อตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยว ซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ ซื้อ gadget ต่างๆ ตามไลฟ์สไตล์ความชอบของแต่ละคน นอกจากนี้บ้านปูฯ ยังเปิดกว้างมอบอิสระในการทำงาน ด้วยการบริหารงานแบบ flat organization ที่ลดลำดับขั้นตอนต่างๆ เน้นการทำงานที่รวดเร็ว โดยบ้านปูฯ ได้บ่มเพาะให้พนักงานทุกคนมีทักษะความเป็นผู้นำ กระจายอำนาจให้ทุกคนสามารถตัดสินใจในงานของตนเองได้อย่างว่องไว ทำให้การทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในทุกประเทศเชื่อมประสานกันแบบไร้รอยต่อ การสื่อสารและบริหารงานต่างๆ จึงมีประสิทธิภาพ หัวหน้างานเข้าถึงและดูทีมงานได้ทันท่วงที ก่อเกิดเป็นรูปแบบการทำงานแบบใหม่ เรียกว่า Agile working ที่พร้อมปรับเปลี่ยน และมี speed of change ที่ไวกว่าเดิม การเปิดกว้างทั้งหมดนี้ก็เพื่อมุ่งหวังให้พนักงานทุกคนที่เข้ามาทำงานที่บ้านปูฯ มีความสุข ดึงศักยภาพ ดึงพลังงานของตนเองออกมา เพราะถ้าพนักงานทุกคนมีพลังใจ ของ Banpu Heart ที่เต็มเปี่ยม พลังในตัวเราจะเต็มตลอดเวลา แล้วจะสามารถส่งต่อพลังที่ดีออกไปสู่คนรอบข้างและสังคมได้อย่างมี่ที่สิ้นสุด
และการให้ความสำคัญกับคน จะช่วยสร้าง Employer Branding ให้เกิดขึ้นได้ง่าย และการจะเกิด Employer Branding ได้นั้น ก็ต้องวกกลับมาถามว่า องค์ดูแลคนของตนเองได้ดีเพียงใด พนักงานเปรียบเหมือนแกนกลางของทุกอย่าง เราจะนึกถึงเสมอว่า หากทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ พนักงานจะรู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร จะชอบไหม จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
และเพื่อที่จะทำให้วัฒนธรรมองค์กรมีความยั่งยืน เหมือนคนที่ต้องตรวจสุขภาพ องค์กรก็เช่นกัน ดังนั้น ในทุกสิ้นปีจะมีการตรวจเช็ค Core Values ขององค์กร นั่นก็คือ “ Banpu Heart Health Check” เพื่อดูว่า Core Values ทั้ง 3 ด้าน Passionate Innovative และ Committed แต่ละตัวมีความแข็งแรงดีไหม ตัวไหนควรที่จะต้องปรับปรุง หัวใจสำคัญคือ แบบสำรวจนี้จะช่วยสะท้อนว่า “คุณเห็นสิ่งเหล่านี้ในองค์กรหรือไม่” “Core Values เหล่านี้ สะท้อนผ่านการทำงาน การสื่อสาร หรือวิถีปฏิบัติของเราหรือไม่”
ผลรายงานที่ได้จากการทำแบบประเมิน จะถูกส่งกลับไปยังแต่ละหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้แต่ละหน่วยงานสร้าง Improvement Plan กันภายในทีม ถึงสิ่งที่จะต้องทำเพิ่มพร้อม Action Plan นอกจากนั้นทีม Organizational Development (OD) Committee รวมกับทีม HR และทีม BCL ( Banpu Heart Change Leader) ก็จะนำผลคะแนนที่ได้มาเปรียบเทียบกัน ตัวที่คะแนนมากสุด -น้อยสุด คือเรื่องอะไร จากนั้นจะหยิบไปพัฒนาต่อ โดยร่วมกันวางแผน ออกแบบกิจกรรมสำหรับปีถัดไป เพื่อยกระดับคะแนนส่วนที่ยังไม่แข็งแรง
และนี่คือ Banpu Heart วัฒนธรรมองค์กรของคนบ้านปูฯ ที่ถูกพัฒนามาตั้งแต่ยุคก่อตั้งองค์กรและปรับเปลี่ยนไปตามบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนไป โดยยังรักษาตัวตนของตัวเองได้อย่างสง่างามท้ากาลเวลา ด้วยการแฝงค่านิยมของ Banpu Heart ไปในกิจกรรมการทำงานและในการพัฒนาคนอย่างตั้งใจเพื่อให้ก่อเกิดเป็นพฤติกรรมที่มีลมหายใจจริงๆ และที่สำคัญคือความเอาจริงเอาจังของผู้บริหารที่นำ Banpu Heart มาเป็นแนวทางการทำงานและการตัดสินใจอย่างไม่ประนีประนอม
A Cup Of Culture