Metaverse กับอนาคตของการทำงาน: คลื่นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

Metaverse เป็นศัพท์ที่คนในแวดวงไอทีได้ยินมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเกิด Hype เป็นกระแสแรงให้คนทุกวงการพูดถึงในช่วงสองสัปดาห์ให้หลังนี้ เมื่อ Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อองค์กรเป็น Meta เพื่อเข้าสู่การทำธุรกิจ Metaverse แบบเต็มตัว ⁣⁣
⁣⁣
Mark Zuckerberg กล่าวในวิดีโอเปิดตัว Meta ว่า Metaverse คือยุคใหม่ต่อจาก Mobile internet โดยเขาใช้คำว่า “We’ll be able to feel present” ซึ่งตีความได้ว่าเมื่อเข้าไปอยู่ในโลก Metaverse แล้วนั้น เราอาจจะได้รับประสบการณ์หรือสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ได้แทบไม่ต่างจากโลกความเป็นจริง⁣⁣
⁣⁣
เมื่อพูดเฉพาะเจาะจงถึงโลกการทำงาน เขากล่าวว่า “Remote work is here to stay and we need a better tool” กล่าวคือแม้โรคระบาดจะหายไปและผู้คนสามารถออกมาพบปะกันได้ตามปกติ แต่ Hybrid workplace จะยังคงอยู่ และ Metaverse จะทำให้ประสบการณ์ของการทำงานแบบ Virtual ดีกว่าเดิมมาก⁣⁣
⁣⁣
===========⁣⁣
⁣⁣
โควิด-19 ทำให้เกิดคำศัพท์การทำงานที่เราพูดกันติดปากอย่าง Work from home (WFH) และต่อยอดมาเป็น Work from anywhere (WFA) หรือ Staycation ทั้งหมดนี้ คือ ความปกติใหม่ของคนค่อนโลก แม้พนักงานหลายคนจะพบสมดุลของชีวิตมากขึ้นผ่านรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid workplace แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการทำงานอาจดีกว่านี้ หากตัวเราและทีมงานได้มาพบปะเพื่อนั่งพูดคุยกัน แต่ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ Hybrid workplace ยังเป็นแบบ 2D สิ่งที่เราทำ คือ นั่งมองมันผ่านหน้าจอเล็ก ๆ มากกว่าที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้น⁣⁣
⁣⁣
คำว่า Feel present ของ Mark Zuckerberg จึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะเข้ามาทำให้ภาพ Hybrid workplace สมบูรณ์ ซึ่งจะกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของมนุษยชาติ ชนิดที่องค์กรไม่สามารถเพิกเฉย หรือปฎิเสธคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้⁣⁣
⁣⁣
===========⁣⁣
⁣⁣
และเมื่อ workplace in the Metaverse อาจมาถึงเร็วกว่าที่เราคิด อะไรบ้างที่อาจเปลี่ยนภูมิทัศน์ของโลกการทำงานในปัจจุบัน วันนี้ A Cup of Culture ได้สรุปออกมา 3 ข้อ เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้ศึกษา คิดภาพตาม และตกผลึกว่าควรต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร⁣⁣
⁣⁣
⁣⁣
🔰 1. ตลาดแรงงานระดับโลก⁣⁣
⁣⁣
โดยพื้นฐาน เมื่อมนุษย์อยู่ที่ไหนก็จะเกิด Economic activities ขึ้นที่นั่น ในอนาคตที่ Metaverse ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง (Mass adoption) ปัจจัยสำคัญที่จะเติมเต็มกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้สมบูรณ์ คือ การจ้างงาน ⁣⁣
⁣⁣
โลก Metaverse จะทำให้เราทุกคนเป็น Global citizen และเมื่อเราทำงานจากที่ไหนก็ได้อย่างราบรื่น Workplace in the Metaverse จะไม่เพียงแค่สร้างอาชีพขึ้นอีกมากมายนับไม่ถ้วนในระดับ Global-scale แต่ยังสามารถยกระดับอัตราค่าจ้างในแต่ละพื้นที่ทั่วโลกด้วยกลไกตลาดหรือการ Arbitrage เพื่อดูดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ⁣⁣
⁣⁣
หัวข้อนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจและสามารถขยายความกันได้อีกยาวซึ่งเราจะมาเจาะประเด็นนี้กันอีกครั้งในบทความต่อ ๆ ไป⁣⁣
⁣⁣
⁣⁣
🔰 2. ความหลากหลายทางวัฒนธรรมภายในองค์กรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน⁣⁣
⁣⁣
ผลพวงต่อเนื่องจากตลาดแรงงานระดับโลก คือ การเกิดขึ้นของสภาพแวดล้อมที่ประกอบไปด้วยคนทำงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยไม่จำกัดแต่เพียงเชื้อชาติ แต่ยังมีปัจจัยด้านภาษา สำเนียง วัฒนธรรมพื้นถิ่น ความเชื่อ เพศสภาพ ตลอดจนโอกาสที่มากขึ้นของผู้พิการที่ Metaverse จะมาช่วยทลายข้อจำกัดที่อยู่บนโลกความเป็นจริง การให้ความสำคัญกับความตั้งใจสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้เกิดความลงตัวทางวัฒนธรรมจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ และไม่ใช่ตัวเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ ”ต้องทำ” เพื่ออยู่รอดอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน⁣⁣
⁣⁣
เทคโนโลยีในเวฟสองอย่าง IoT และโซเชียลมีเดียได้สร้างผลกระทบโดยตรงต่อองค์กรที่ปฎิเสธการปรับตัวมาแล้ว เช่น การสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันเพราะไม่สามารถสร้างการทำงานแบบ Data driven ให้เกิดขึ้นได้เพื่อนำชุดข้อมูลมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ ⁣⁣
⁣⁣
เทคโนโลยีในเวฟสามที่กำลังจะมาถึง นำโดย Metaverse จะเข้ามาปฎิวัติรูปแบบและวัฒนธรรมการทำงานเป็นลำดับแรก ๆ และในรอบนี้ องค์กรใดที่เพิกเฉยต่อคลื่นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ อาจจะแพ้ตั้งแต่ในบ้าน โดยยังไม่ทันได้ออกไปแข่งกับใครเลยก็เป็นได้⁣⁣
⁣⁣
⁣⁣
🔰 3. Hybrid Workplace คือ เงื่อนไขใหม่ในการดึงดูดและรักษา Talent⁣⁣
⁣⁣
“Expectation of everyone towards flexibility has changed” – คือ คำพูดของ Satya Nadella CEO คนปัจจุบันของ Microsoft ที่มองว่าความคาดหวังของพนักงานต่อความยืดหยุ่นในการทำงานกำลังจะเปลี่ยนไป และความสามารถในการรับมือกับความคาดหวังนี้อาจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้องค์กรสามารถรักษาการแข่งขันในตลาดเอาไว้ได้ ⁣⁣
⁣⁣
เป็นระยะเวลากว่าสองปีที่คนทำงานต้องปรับตัวเข้ากับ Hybrid workplace โดยหลาย ๆ คน พบสมดุลชีวิตที่ดีขึ้น แม้ปัจจุบันยังต้องแลกกับการไม่ได้ทำงานใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงาน แต่ถ้าเครื่องมือใหม่อย่าง Metaverse คือคำตอบ เราอาจจะไม่คิดถึงการกลับไปเข้าออฟฟิศอีกเลยก็เป็นได้ และนี่อาจเป็นเงื่อนไขขั้นพื้นฐานที่พนักงานมองหาในการเลือกองค์กรทำงาน ดังที่เราจะเห็นได้จาก The Great Resignation ที่กำลังเป็นกระแสใหม่ในอเมริกาก็เป็นได้⁣⁣
⁣⁣
===========⁣⁣
⁣⁣
การที่เราได้เห็นบริษัท Top Players ระดับโลกอย่าง Facebook และ Microsoft ประกาศจุดยืนในการพัฒนา Metaverse อย่างจริงจัง น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนพอว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะมาถึงเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน และภาพของโลกการทำงานในอนาคตคงจะใกล้เคียงกับคลิปนี้ของ Meta ไม่มากก็น้อย ตัวอย่างการทำงาน Work in the metaverse:
⁣⁣
⁣⁣
A Cup of Culture⁣⁣
———–⁣⁣
วัฒนธรรมองค์กร⁣⁣
corporate culture⁣⁣
organizational culture⁣⁣
⁣⁣.
.
>>>


⁣แหล่งข้อมูลอ้างอิง⁣⁣

https://hbr.org/2019/02/companies-are-failing-in-their-efforts-to-become-data-driven

https://www.knightfrank.co.uk/office-space/insights/scaling-your-business/why-businesses-fail-to-adapt
.
.
>>>


⁣⁣
⁣⁣
⁣⁣

Share to
Related Posts:
Search

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search