ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมาย “Empathy” คือ “ความร่วมรู้สึก” เป็นความสามารถในการเข้าใจหรือรู้สึกถึงสิ่งที่บุคคลอื่นกำลังประสบภายในกรอบอ้างอิงของบุคคลนั้น ๆ
ในแง่ขององค์กร “Empathy” เป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำที่ดีและการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีคุณภาพ แต่บางครั้งความหมายของคำว่า Empathy ถูกเข้าใจผิดจนทำให้เกิดพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อวัฒนธรรมองค์กร วันนี้ A Cup of Culture อยากชวนมาดูกันว่า Empathy คืออะไรและอะไรที่ไม่ใช่!? และคำนี้ส่งผลอย่างไรต่อวัฒนธรรมองค์กร
…………………..
Empathy ในองค์กรคืออะไร?
“ความร่วมรู้สึก” หรือคำที่เราคุ้นชินคือ “ความเห็นอกเห็นใจ” ไม่ใช่แค่การรู้สึกสงสารผู้อื่น แต่คือการเชื่อมต่อ เข้าใจ และซัพพอร์ตสนับสนุนในทางบวก มีลักษณะสำคัญ ดังนี้:
- การอยู่กับปัจจุบัน: ความเห็นอกเห็นใจคือการให้ความสนใจและอยู่ในสถานการณ์นั้นอย่างเต็มที่ ในวัฒนธรรมองค์กร ผู้นำที่มีความใส่ใจต่อพนักงานเมื่อพวกเขาแสดงออก จะช่วยสร้างความไว้วางใจและกำลังใจที่ดี
- การฟังอย่างตั้งใจ: การฟังที่ลึกซึ้งไปกว่าคำพูด ช่วยให้เข้าใจอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ การฟังอย่างตั้งใจส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารที่เปิดกว้างและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในวัฒนธรรมองค์กร
- การให้การสนับสนุนที่เหมาะสม: การถามว่าคนอื่นต้องการการสนับสนุนแบบไหน คือการแสดงความเห็นอกเห็นใจที่แท้จริง ซึ่งช่วยให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและได้รับการเคารพในวัฒนธรรมองค์กร
- การเปิดพื้นที่ให้แสดงอารมณ์: สร้างบรรยากาศที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการแสดงอารมณ์โดยไม่ถูกตัดสิน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในทีม
- การเปิดใจและการเปิดโอกาส: ความเห็นอกเห็นใจรวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ในวัฒนธรรมองค์กร ผู้นำที่แบ่งปันความท้าทายของตนช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการสนทนาที่มีความหมาย
- การแบ่งปันความท้าทายร่วมกัน: การยอมรับประสบการณ์ที่เหมือนกันช่วยให้ทีมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีความร่วมมือ
- การยอมรับความคิดและความรู้สึก: ความเห็นอกเห็นใจคือการยอมรับและยืนยันความคิดและอารมณ์ของผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พนักงานรู้สึกว่าความรู้สึกของพวกเขามีค่า
- การเคารพประสบการณ์ของผู้อื่น: แม้ว่าเราอาจไม่เข้าใจสถานการณ์ของผู้อื่นอย่างถ่องแท้ การเคารพในประสบการณ์ของพวกเขาเป็นส่วนสำคัญของความเห็นอกเห็นใจ ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีความหลากหลายและยอมรับความคิดเห็นของทุกคน
อะไรไม่ใช่การ Empathy!?
- การให้ผู้อื่นสำคัญกว่าเราเองเสมอ: ความเห็นอกเห็นใจไม่ใช่การให้ความสำคัญกับผู้อื่นมากเกินไปจนทำให้ตนเองหมดพลัง ในวัฒนธรรมองค์กร นี่อาจนำไปสู่การทำงานที่ไม่สมดุลและหมดไฟ
- การสนับสนุนทัศนคติที่ว่า “ตัวฉันคือเหยื่อในเหตุการณ์นี้” (Victim Mentality): ความเห็นอกเห็นใจไม่ควรสนับสนุนความคิดที่เชื่อว่าตนเองเป็นเหยื่อของทุกสถานการณ์และของทุกคน จะยิ่งส่งเสริมให้พวกเขารู้สึกติดอยู่ในภาวะที่พวกเขารู้สึกว่าไม่มีพลังหรือไม่มีความสามารถในการจัดการใดๆ ได้
- การแสดงความสงสาร: ความสงสารทำให้เกิดความห่างเหินระหว่างคน ความเห็นอกเห็นใจควรเป็นการเข้าใจและสนับสนุน ไม่ใช่การแสดงความรู้สึกที่ทำให้คนอื่นรู้สึกต่ำต้อย
- การไม่ต้องรับผิดชอบ: ความเห็นอกเห็นใจไม่ใช่การปล่อยให้คนหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ความเห็นอกเห็นใจที่แท้จริงควรสนับสนุนให้เกิดความรับผิดชอบและการเติบโต
- การไม่คำนึงถึงขอบเขตของตัวเอง: การเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจไม่ได้หมายความว่าจะละเลยการดูแลตนเอง ผู้นำที่ไม่ตั้งขอบเขตอาจประสบภาวะเหนื่อยล้า ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของการแสดงความเห็นอกเห็นใจและส่งผลลบต่อวัฒนธรรมองค์กร
.………………………………
ทำไม Empathy ถึงสำคัญต่อวัฒนธรรมองค์กร
การผสมผสานความเห็นอกเห็นใจในวัฒนธรรมองค์กรช่วยสร้างบรรยากาศที่พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีกำลังใจสูงขึ้น บริษัทที่มีผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจมักจะมีการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น การสื่อสารที่เปิดกว้าง และอัตราการคงอยู่ของพนักงานที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเข้าใจข้อจำกัดของความเห็นอกเห็นใจก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน การใช้ความเห็นอกเห็นใจที่ไม่เหมาะสม เช่น การให้ความสำคัญกับผู้อื่นจนละเลยตนเอง หรือการไม่ถือผู้อื่นให้รับผิดชอบ อาจทำให้วัฒนธรรมองค์กรอ่อนแอลงและลดประสิทธิภาพการทำงาน
……………………………..
วิธีส่งเสริม Empathy ในที่ทำงาน
- การฝึกอบรมและพัฒนา: จัดอบรมที่ช่วยให้ผู้นำและพนักงานเรียนรู้วิธีแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างเหมาะสม
- ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดกว้าง: สร้างพื้นที่ให้ทีมสามารถแสดงความรู้สึกและสื่อสารอย่างตั้งใจ
- การเป็นแบบอย่าง: ผู้นำควรเป็นตัวอย่างในการแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างถูกต้อง
- การรักษาขอบเขตที่เหมาะสม: สอนให้พนักงานและผู้นำเข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลตนเองเพื่อให้ความเห็นอกเห็นใจยังคงคุณภาพและยั่งยืน
……………………………….
บทสรุป –ความเห็นอกเห็นใจเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เชื่อมโยงความไว้วางใจและความร่วมมือ การเข้าใจความหมายที่แท้จริงและสิ่งที่ไม่ใช่ของความเห็นอกเห็นใจ ช่วยให้ผู้นำและพนักงานสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อใจและมีความก้าวหน้าในการทำงาน การสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนและการตั้งขอบเขตเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้วัฒนธรรมองค์กรเจริญรุ่งเรืองและพนักงานทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน
A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.