การสำรวจประจำปีล่าสุดของ Gallup ที่วัดเรื่องความผูกพันของพนักงานทั่วโลกที่มีต่องค์กรของตนเอง พบว่ามีพนักงานเพียง 32% เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองรู้สึกผูกพันและมีส่วนร่วมกับองค์กร และการศึกษายังพบระดับคะแนนต่ำในอีกหลายประเด็น เช่น
Category: Leadership
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง องค์กรต่าง ๆ ต่างแสวงหาวิธีที่จะมีข้อเปรียบเหนือคู่แข่งอยู่เสมอ ในขณะที่ปัจจัยด้านการเข้าถึงข้อมูล แหล่ง supplier เริ่มมีผลน้อยลงเรื่อย
มายเซ็ตหนึ่งที่เรามักมีต่อกลุ่มคนแบบอินโทรเวิร์ต หรือ Introvert คือ คนกลุ่มนี้ไม่ได้เกิดมาเป็นผู้นำ” เป็นคนเงียบ เก็บตัว และอาจไม่ใช่คนแรกที่จะเอ่ยปากพูดในที่ประชุม
ล่าสุดมีงานวิจัยชิ้นนึงที่น่าสนใจอยากจะมาเล่าให้ฟัง งานวิจัยนี้เริ่มต้นในช่วงแรกของโควิด 19 หรือประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยนักวิจัยพบว่าผู้นำที่มีความสามารถรอบตัวสูงคือผู้นำที่สร้างผลลัพท์ให้กับองค์กรได้ดีที่สุด ตั้งแต่ในด้านของ
“ความเป็นผู้นำ” ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในระดับสูง ผู้จัดการทีม หัวหน้าฝ่าย หรือแม้กระทั้งหัวหน้าห้องในโรงเรียน เป็นบทบาทที่มาพร้อมกับคำว่า “รับผิดชอบ” หรืออย่างที่เราคุ้นเคยกับคำคมระดับโลกจากหนังเรื่อง
บ่อยครั้งที่เรารู้สึกท้อแท้ในชีวิต รู้สึกว่ามองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวเดินต่อ วิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยดึงเรากลับมามีสติและมีกำลังใจในการก้าวเดินต่อได้คือ “การได้พูดคุยและรับกำลังใจจากคนที่เราให้ความสำคัญ” หรือ “การได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านหรือฟังคำคม หรือแนวคิดดีๆ จากคนที่ประสบความสำเร็จ”
องค์กรก็เปรียบเสมือนเมืองเล็กหลาย ๆ เมืองรวมตัวกันเป็นเมืองใหญ่หนึ่งเมือง ในแต่ละเมืองเล็กแต่ละเมืองก็ประกอบไปด้วยคนหลายแบบ ตั้งแต่คนที่ขี้เกียจไปจนถึงคนระดับผู้นำชุมชน เราจะเรียกเมืองเล็ก ๆ เหล่านี้ว่าเผ่า
อำนาจอาจทำให้ผู้นำหลาย ๆ คนเสพติดผลลัพธ์และการควบคุม ซึ่งทำให้พวกเขาเหล่านั้นมองพนักงานของตัวเองเป็นแค่เส้นทางไปสู่ผลลัพธ์ และเมื่อเป็นเช่นนั้น พนักงานก็จะจมอยู่กับความกลัว ความกลัวที่จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ความกลัวที่จะไม่ได้โบนัส
งานวิจัยของ Havard Business Review พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้การทำงานร่วมกันล้มเหลวมาจาก 1. การขาดความร่วมมือระหว่างผู้นำทีม (67%)