นาทีนี้ใคร ๆ ก็พูดถึงแนวคิดแบบ Agile ซึ่งก็คือ #การปรับเปลี่ยนการทำงานให้คล่องตัว #รวดเร็ว #และเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้น หลายองค์กรพยายามนำแนวคิดแบบ Agile มาปรับใช้ และก็พบว่าไปไม่ถึงฝั่งฝันเป็นอันต้องพับโครงการกันไป นั่นเป็นเพราะว่า… ขาดการส่งเสริม Learning Agility
Columbia University และ the Center for Creative Leadership ได้ให้คำจำกัดความของ Learning Agility ไว้ว่าคือ วิธีคิดและการรวบรวมแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกันที่ช่วยให้บุคคลากรสามารถพัฒนา เติบโต และใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนที่เผชิญในที่ทำงานได้มากขึ้น
สอดคล้องกับที่ Alvin Toffler นักเขียนชาวอเมริกัน ได้พูดถึงความสามารถในการเรียนรู้ โดยการ
Learn: เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
Unlearn: ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยเรียนรู้มา
Relearn: เรียนรู้สิ่งที่เคยรู้ด้วยมุมมองใหม่ๆ
==================>>>
กล่าวคือ Learning Agility ไม่ได้หมายถึงแค่การอบรมทักษะความรู้เท่านั้น แต่รวมถึงความสามารถและความกระตือรือร้นของแต่ละบุคคลในการศึกษาวิเคราะห์ปัญหาใหม่ในสถานการณ์ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว และใช้กระบวนการเรียนรู้ของตนเองเพื่อทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการตัดสินใจและแก้ปัญหาใหม่ ๆ ในงานด้วย
ยิ่งในช่วงปีแห่ง Disruption นี้ที่องค์กรต่าง ๆ ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว บุคลากรต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานที่ต้องใช้ทักษะทางเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ ๆ และ Soft Skill ที่ใช้รับมือกับปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สอดคล้องกับงานวิจัยชิ้นล่าสุดของ Korn Ferry หัวข้อ Talent for Tomorrow: Four Secrets for HR Agility in an Uncertain World พบว่าองค์กรที่มี Learning Agility ประสบความสำเร็จมากกว่าองค์กรอื่น ๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ
Korn Ferry ชี้ให้เห็นถึงองค์ประกอบ 5 ด้านที่ใช้ในการวัดระดับ Learning Agility ได้แก่
📌 1. Mental Agility (ความคล่องตัวด้านความคิด)
หมายถึง การยอมรับว่าตัวเองไม่ได้รู้ไปซะทุกเรื่อง มีความคิดที่รวดเร็ว สนใจเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองใหม่ ๆ ถามคำถามอยู่เสมอและรับฟังเพื่อจะได้คำตอบใหม่ ๆ เพื่อการแก้ปัญหาและการพัฒนา
📌 2. People Agility (ความคล่องตัวด้านปฏิสัมพันธ์กับคน)
หมายถึง การเปิดใจต่อกลุ่มคนใหม่ ๆ ที่หลากหลาย รับฟัง และตื่นเต้นกับการเรียนรู้วัฒนธรรมหรือวิธีการใหม่ ๆ กล้าที่จะเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์เพื่อมองหาข้อตกลงที่ดีที่สุด
📌 3. Change Agility (ความคล่องตัวด้านการเปลี่ยนแปลง)
หมายถึง ความเข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ดีในวันนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต จึงมุ่งหวัง ยินดี และพยายามค้นหาทางเลือกใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ
📌 4. Result Agility (ความคล่องตัวด้านผลลัพธ์)
หมายถึงการมุ่งส่งมอบผลลัพธ์แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย รวมถึงการส่งเสริมหรือสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นบรรลุในผลลัพธ์เช่นกัน
📌 5. Self-awareness (การตระหนักรู้ในตนเอง)
หมายถึง การไตร่ตรอง เข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง แสวงหาความคิดเห็นและข้อมูลเชิงลึก ค้นหาข้อควรพัฒนาและยอมรับข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาตนเองเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
องค์กรสามารถสนับสนุนให้เกิด Learning Agility ได้โดยการ
👉 1. สื่อสารเป้าหมายภาพรวม สื่อสารให้บุคลากรรับรู้ถึงความสำคัญ ความจำเป็น เป้าหมาย และทิศทางขององค์กรในการพัฒนาสู่การเป็นองค์กร Agile
👉 2. กำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนารายบุคคล ใช้แบบประเมินหรือการทบทวนผลการปฏิบัติงาน และกำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนา เปิดโอกาสสำหรับการผิดพลาดเพื่อการเรียนรู้
👉 3. ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Agile เช่น การเรียนรู้ข้ามสายงาน (Crossed-functional Learning), การหมุนเวียนงาน (Job Rotation), การให้คำปรึกษาระหว่างเพื่อนร่วมงาน (Peer Mentoring) เพื่อเปิดโอกาสให้เห็นกระบวนการทำงานจากแผนกอื่น ๆ ช่วยให้ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เห็นวิธีการ ความเป็นไปได้ และข้อจำกัดที่แตกต่าง เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกัน รวมถึงการให้รางวัล (Reward and Recognition) สำหรับผลลัพธ์จากการเรียนรู้
👉 4. ใช้แนวคิด Learning Agility ในการสรรหาและคัดเลือก การถามคำถามเพื่อการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มี Learning Agility เช่น• ถามถึงผลลัพธ์ในงาน เช่นผลลัพธ์ในงานของคุณคืออะไร ใช้วิธีการ และวางแผนระยะเวลาอย่างไร?
• ถามถึงปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในฐานะผู้นำ หรือในฐานะทีมงาน เช่นคุณได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือหัวหน้างานอย่างไรบ้าง? คุณได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในการพัฒนางานอย่างไร?
• ถามถึงวิธีการจัดการกับปัญหา เช่น คุณมีวิธีการจัดการกับปัญหาที่ไม่เคยเจอมาก่อนอย่างไร?
• ถามถึงประสบการณ์ในการรับ Feedback เช่นFeedback ที่คิดว่าแรงที่สุดเท่าที่เคยได้รับคืออะไร และคุณมีวิธีการจัดการกับมันอย่างไร?เรียกได้ว่า การจะเป็นองค์กร Agile ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่การตั้งเป้าหมายองค์กร ทัศนคติในการเรียนรู้ของบุคลากรทุกฝ่าย การให้โอกาสในการเรียนรู้จากหัวหน้างาน รวมถึงระบบการเรียนรู้ และกระบวนการบริหารภายในแบบ Agile
==================>>
คุณผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดแบบ Agile จาก A Cup of Culture ได้ที่
https://www.facebook.com/108440997253589/posts/317809852983368/
https://www.facebook.com/108440997253589/posts/343772703720416/
.
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
culture
.
.
.
.
.
ที่มา:
https://focus.kornferry.com/leadership-and-talent/the-organisational-x-factor-learning-agility/
https://www.digitalhrtech.com/learning-agility/amp/
https://www.ccl.org/articles/leading-effectively-articles/tips-for-improving-your-learning-agility/