องค์กรที่ปรับตัวเป็นล้วนให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในที่ทำงาน แต่องค์กรที่เก่งจริงจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องของการใช้ทั้ง Hardware และ Software แต่เป็นเรื่องของ ‘คน’ ซึ่งนอกจากการเพิ่มความคล่องตัวเพื่อให้ทันกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้ว สิ่งที่องค์กรเหล่านี้ต้องการคือ #คนที่ปรับตัวได้อย่างว่องไว
ทักษะการปรับตัวแบบ Agile เป็นที่พูดถึงในทุก ๆ องค์กร ตั้งแต่องค์กรที่กำลังปรับโครงสร้างให้เข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้น หรือองค์กรใหม่ ๆ ที่เริ่มในยุคนี้มีความคล่องตัวเป็นตัวตั้ง และเมื่อเราพูดถึงทักษะในการปรับตัวของพนักงาน เรากำลังพูดถึงการติดอาวุธทั้งในด้านของทั้ง skills และ mindset ที่จะช่วยให้พวกเขาปรับตัวได้อย่างดี เมื่อเรานำเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้กับองค์กรไม่ว่าจะเป็น Slack, Zoom หรือ Discord และถ้าเราจะลงลึกให้มากกว่านี้ว่าอะไรบ้างล่ะที่เป็น Skills และ Mindset ที่ส่งผลต่อากรปรับตัวนี้ วันนี้เรามี 6 Soft Skills สำคัญขององค์กรยุค Digital มาฝาก
=======================
🔰 1. Goal-centric thinking
Goal-centric thinking หรือการคิดแบบยึดเป้าหมายเป็นหลัก เป็นเรื่องที่เรียบง่าย แต่ทำได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อเราได้เห็นเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ แพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นตลอดเวลาจนอยากที่จะนำกลับไปใช้กับองค์กรตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือได้ด่อเมื่อมันคือเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายได้จริง ๆ ดังนั้นเราจึงต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุก ๆ เครื่องมือใหม่ ๆ จะได้รับการยอมรับ
ดังนั้นทักษะสำคัญของผู้นำคือการมองให้ออกว่าเครื่องมือแบบไหนที่จะตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กรเราได้จริง ๆ และเลือกที่จะปรับใช้เฉพาะสิ่งนั้น โดยเริ่มต้นจากการสื่อสารไปยังทีมงานให้ได้ว่าปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้คืออะไร และเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้จะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นอย่างไร รวมไปถึงการส่งเสริมให้ทีมงานมีวิธีการคิดในการสรรหาเครื่องมือที่เหมาะกับเป้าหมายและงานที่เฉพาะเจาะจงของตัวเองมาใช้ด้วยตัวเอง
🔰 2. Collaboration skills
ทักษะการทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าเครื่องมือด้าน Technology ในยุคปัจจุบันเช่น Slack, Zoom หรือ Google Docs ส่งเสริมการทำงานร่วมกันมากแค่ไหนก็ไม่อาจจะช่วยอุดรูรั่วของทักษะทางสังคมพื้นฐานได้ ถ้าทีมงานของเราไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างสันติแล้ว เครื่องมือต่าง ๆ ก็จะกลายเป็นตัวช่วยให้เกิดความบาดหมางได้ดีพอ ๆ กับการร่วมมือ
องค์กรจะสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อเราได้มีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทีมงานไว้ใจซึ่งกันและกัน และให้รางวัลกับการทำงานเป็นทีมมากกว่าการเชิดชูคนใดคนหนึ่ง และแม้จะทำได้ดีแล้วแต่ก็อาจจะยังมีบางครั้งที่พนักงานบางคนยังไม่กล้าพอที่จะให้ความร่วมมือ องค์กรจึงควรที่จะมองหาคนเหล่านี้และส่งเสริมให้พวกเขาเปิดกับการทำงานเป็นทีมมากขึ้นโดยเริ่มจากเรื่องที่เล็กลงได้
🔰 3. Communication skills.
เมื่อพูดถึงทักษะการทำงานเป็นทีมแล้ว ทักษะการสื่อสารก็เป็นเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะเมื่อองค์กรเริ่มสื่อสารในช่องทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ และเรามักจะเริ่มสัมผัสได้ว่าหัวข้อการพูดคุยต่าง ๆ ที่เราเคยคุยกันได้แบบออฟไลน์อย่างสะดวกใจ พอมาเป็นออนไลน์แล้วกลายเป็นอีกเรื่องไปเลย
องค์กรจึงควรฝึกให้พนักงานสื่อสารในบริบทออนไลน์ให้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านของการให้เห็นความสำคัญของความแตกต่างระหว่างบริบทออฟไลน์ และออนไลน์ เช่น จุดที่สามารถเข้าใจผิดได้ง่ายเมื่อเป็นทางออนไลน์ พร้อม ๆ กับในอีกด้านหนึ่งส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ให้อภัยกับความเข้าใจผิดของการสื่อสารออนไลน์ได้มากขึ้น และวิธีการเลี่ยงความขัดแย้งเมื่อการสื่อสารเป็นแบบออนไลน์
🔰 4. Learning skills.
ทักษะของการเรียนรู้นั้นจำเป็นเสมอไม่ว่าจะเป็นองค์กรในรูปแบบไหน และยิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรที่กำลังปรับตัว โดยเฉพาะการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยขณะที่คนที่ชอบเทคโนโลยีส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในด้านนี้ แต่ยังมีคนส่วนใหญ่อีกมากที่ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุก
ด้วยความแตกต่างระหว่างแต่ละกลุ่มนี้ สิ่งสำคัญสำหรับองค์กรคือการยอมรับว่าทีมงานของเราจะมีกระบวนการการเรียนรู้ที่หลากหลายเมื่อเป็นเรื่องของเทคโนโลยี และถ้าพวกเขาได้เจอกับวิธีที่เหมาะกับตัวเองแล้วการปรับตัวตรงนี้จะง่ายขึ้นได้มาก ๆ เช่นบางคนอาจจะชอบอ่านคู่มือการใช้ หรือดูวิดีโอสาธิต ในขณะที่อีกกลุ่มชอบที่จะลองใช้เลยมากกว่า และก็ยังมีบางส่วนที่อยากให้จับมือในทำในการใช้งานครั้งแรก การส่งเสริมการเรียนรู้ในการปรับตัวในรูปแบบที่หลากหลายจึงเป็นสิ่งที่องค์กรสามารถทำได้เพื่อสร้างทักษะการปรับตัวในระยะยาวให้กับทีมงาน
🔰 5. Troubleshooting skills.
เมื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สิ่งที่มักจะตามมาคือปัญหาการใช้งานในหลาย ๆ รูปแบบ และนำมาซึ่งประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดี และทำให้พนักงานปรับตัวได้ยากขึ้น และเมื่อพนักงานต้องพึ่งฝ่าย IT มาก ๆ ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ องค์กรก็จะเกิดคอขวดและทำให้การแก้ปัญหาการใช้งานเป็นไปได้อย่างล้าช้า
สิ่งที่องค์กรควรทำคือการสิ่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เช่น การใช้ Google เพื่อค้นหา Error message หรือวิธีการสื่อสารปัญหาให้ชัดเจนเพื่อที่จะสมารถหาทางแก้ไขบนอินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ทักษะเหล่านี้จะยังช่วยให้พนักงานสามารถรายงานปัญหาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับตัวโดยรวมขององค์กร
🔰 6. Playfulness.
เราพูดถึงทักษะที่ในเชิงปฏิบัติกันไปแล้ว และต่างล้วนมีความสำคัญต่อการปรับในด้านของเทคโนโลยีในที่ทำงาน แต่สิ่งที่จะเป็นตัวชูโรงในการปรับตัวที่สำคัญมาก ๆ คือความสนุก เพราะนี่คือสิ่งช่วยปรับทัศนคติของทีมที่มีต่อการใช้เทคโนโลยี พนักงานที่สนุกกับการใช้คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมืออื่น ๆ เสมือนเป็นของเล่นจะพร้อมเปิดรับกับโอกาสในการได้เล่นของเล่นใหม่ ๆ เหล่านี้
องค์กรจะยิ่งได้เปรียบหากสามารถใส่อารมณ์ขัน และความสนุกลงไปยังเครื่องมือเหล่านี้ได้ ตัวอย่างเช่นใช้งานฟังก์ชั่นของ Slack ที่สามารถใส่ emoji ที่ออกแบบเองลงไปได้ หรือการทำกิจกรรมให้ทีมงานสำรวจวิธีที่พวกเขาสามารถดึงเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้กับความสนใจ และงานอดิเรกส่วนตัวได้มากขึ้น ยิ่งทีมงานของเราเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับความสนุกได้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งพร้อมที่จะรับมือความเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีมากขึ้น
======================
ทั้งหมดนี้คือ 6 ทักษะที่องค์กรควรเสริมสร้างให้กับพนักงานเพื่อให้เป็นพื้นฐานของความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งในด้านของการเป็นผู้ใช้งาน และอาจจะรวมถึงการออกแบบเทคโนโลยีให้เข้ากับองค์กร โดยที่ในองค์กรเราอาจจะมีพนักงานที่มีทักษะเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง เช่น คนที่รักในเทคโนโลยีอยู่แล้ว และเป็น early adoptor บ่อย ๆ องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากความรักในเทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่มเติมได้ผ่านการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนกันในองค์กรเพื่อพลังงานความสนุกเหล่านี้แพร่กระจายไปได้กับทั้งองค์กร
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
corporate culture
organizational culture
.
.
>>>
.
.
>>>
ข้อมูลอ้างอิง
https://hbr.org/2016/02/the-soft-skills-of-great-digital-organizations
.
.
>>>