“เราทุกคนสัมผัสกับวัฒนธรรมองค์กรขององค์กรเราทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเชิงบวก หรือลบ”
อ้างอิงจากคุณ Jacob Morgan ผู้แต่งหนังสือ The Employee Experience Advantage ไม่ว่าพนักงานจะทำงานจากที่ใดก็ตาม จะเป็นออฟฟิตหรือทำงานจากที่บ้าน สุดท้ายแล้วองค์กรของคุณก็ยังมีวัฒนธรรมองค์กร เพราะมันเป็นทุก “ความรู้สึก” ในองค์กร ที่เกิดจากสไตล์ของผู้นำในบริษัท ความรู้สึกที่พนักงานรับรู้ต่อเป้าหมาย และทัศนคติของคนเกี่ยวกับองค์กรของคุณ มันสามารถทำให้เรามีพลัง หรือทำให้เราเหนื่อยจนหมดกำลังใจ
.
จากบทความใน A Cup of Culture เรื่อง How Culture Impacts EX? ทำให้เห็นภาพว่า Culture เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้าง Employee Experience (EX) ที่สมบูรณ์อย่างไร วันนี้เรามีเทคนิคง่ายๆ ในการทำให้เกิด Amazing Employee Experience
.
.
.
1. แชร์เป้าหมาย และค่านิยม
องค์กรและพนักงานควรจะแชร์เป้าหมายเดียวกัน มีความเคารพกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง, หัวหน้าและลูกน้อง, ผู้บริหารและพนักงาน สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยสนับสนุน Core Values ขององค์กร ยกตัวอย่างเช่น หาก อยากสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม คุณสามารถเน้น Values บางตัวให้โดดเด่นเพื่อกระตุ้นพนักงานได้ เช่น
⋆ การพัฒนา:
องค์กรควรสร้างโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาทักษะใหม่ๆ อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นด้านการได้เรียนต่อ หรือ การเลื่อนตำแหน่ง
.
⋆ การมีจริยธรรม:
“Doing the right thing” การทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้ว่าจะไม่มีคนเห็น เราควรตั้งความคาดหวังไว้ว่าพนักงานทุกคนควรมีความซื่อสัตย์
.
⋆ การมีนวัตกรรม:
เปิดรับความคิดใหม่ ทำให้พนักงานมีความกล้าในการนำเสนอไอเดียแนวทางใหม่ๆ ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจ
.
⋆ ความเคารพซึ่งกันและกัน:
องค์กรที่ไม่ให้เกียตริกันมักจะมีอัตราการลาออกสูง เนื่องจากเกิดความเครียดในที่ทำงาน ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ วิธีเริ่มแก้ง่ายๆ ที่สามารถเริ่มที่ตัวคุณเองด้วยการรู้จักควบคุมอารมณ์โกรธ สื่อสารอย่างสุภาพ คอยช่วยเหลือกัน และไม่ตัดสินเพื่อนร่วมงาน
.
.
.
2. รับฟังเสียงจากพนักงาน
หากคุณต้องการพัฒนาจุดแข็งของคุณ คุณต้องยอมรับในจุดอ่อนของตัวเองก่อน เปิดใจรับฟัง และลองถามคำถามที่เหมาะสม เช่น
‐ โปรเจคที่คุณดูอยู่เป็นอย่างไรบ้าง?
‐ อะไรที่ดี อะไรที่ไม่เวิร์ค?
‐ คุณคิดว่าปัญหามีอะไรบ้าง?
‐ คุณอย่างได้อะไรที่จะช่วยซัพพอร์ตคุณไปถึงเป้าหมายนั้นมั้ย?
.
หรือถามคำถาม ที่ช่วยสร้างกำลังใจ:
‐ ให้ผมช่วยอะไรมั้ย?
‐ โปรเจคก่อนหน้านี้มีเรื่องไหนที่ผมช่วยสนับสนุน แล้วทำให้คุณทำงานได้สะดวกขึ้นบ้าง?
‐ คราวหน้าผมควรทำอะไรให้แตกต่างไปดี?
.
หรือสามารถใช้เครื่องมือ feedback ต่างๆ ในการเปิดหัวข้อสนทนาและสร้างวัฒนธรรมที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา เช่น:
‐ 360 degree feedback
‐ แบบสอบถามความพึงพอใจพนักงาน
‐ การพูดคุยส่วยตัวกับผู้นำ
‐ การประเมินผลงาน
‐ การพูดคุยทุกไตรมาส
‐ การพูดคุยในทีม
.
.
.
3. ตั้งความคาดหวังที่เหมาะสม
‐ เข้าใจ What Where Why When ของความต้องการตัวเอง
⇀ เข้าใจตัวเองก่อนว่าต้องการอะไร ถ้าคุณอธิบายให้ตัวเองฟังไม่ได้ คุณก็จะสื่อสารกับพนักงานคุณไม่ได้อยู่ดี
⇀ รู้ว่าตัวเองต้องการถึงจุดไหน
⇀ เข้าใจว่าเหตุผลของความต้องการนั้น ๆ
⇀ ต้องการเมื่อไหร่
‐ คุยเรื่องความคาดหวังต่อหน้า
‐ จดบันทึกและติดตามในเรื่องที่สื่อสารไป
‐ อย่ารับปากหรือสัญญาในสิ่งที่คุณทำไม่ได้
.
.
.
4. สร้างแรงบันดาลใจโดยไม่ใช้เงิน
คุณควรสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มากกว่าการดึงดูดใจพวกเขาด้วยเงิน เช่น
‐ การสร้างสังคม หยุดพักบ้างและให้ทีมได้เล่นเกมส์ด้วยกัน
‐ การปลูกฝังการเปิดรับฟัง (Open Door Communication) ถ้าคุณไม่รู้ว่าพนักงานจะกล้ามาเล่าให้คุณฟังมั้ย คุณก็เริ่มจากการ “ถาม” พวกเขาแทนสิ
‐ การให้พนักงานมีอำนาจในการรับผิดชอบและเข้าใจในเป้าหมายงานตัวเองอย่างเต็มที่ ให้เขาตัดสินใจและนำเสนอตารางเวลาต่างๆ ด้วยตัวเขาเอง กระตุ้นให้เห็นคุณค่าในงานของพวกเขา
‐ ชมเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนยอดขายขึ้น Bid โปรเจคชนะ โปรเจคสำเร็จ ความพึงพอใจของลูกค้าต่างๆ ควรเอามาแชร์ในแนว “ขอบคุณ” พวกเขา
.
.
.
5. ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองพลาด
คนเราเรียนรู้จากการผิดพลาด และบทเรียนที่สำคัญไปกว่านั้นของพนักงานคือการเรียนรู้ว่า “คุณเองก็เคยพลาดและยอมรับว่าคุณเป็นคนทำ” หากคุณขึ้นชื่อว่าเป็นคนซื่อตรง จะยิ่งทำให้พนักงานเข้าหาคุณง่ายขึ้นก่อนที่ปัญหาจะกลายเป็นวิกฤติ
.
.
.
☕A Cup of Culture☕
.
.
.
ที่มาจาก: https://thecorematters.com/5-ways-to-create-an-amazing-employee-experience/