5 แนวทางนำเสียงหัวเราะกลับคืนสู่ออฟฟิศ

การประชุมผ่านวิดีโอคอล การนั่งทำงานจากที่บ้าน หรือการไม่เข้าออฟฟิศเลยทั้งอาทิตย์ เริ่มกลายเป็นสิ่งคุ้นชินของผู้คนไปแล้ว ช่วงเริ่มแรกอาจตะกุกตะกักบ้างแต่พอองค์ประกอบต่าง ๆ ลงตัวมากขึ้น “การประชุมกันทางไกลก็สะดวกดี” “งานก็ทำออนไลน์ได้เกือบหมด” “แถมไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ประหยัดเวลามหาศาล”


#แต่ทำไมกันนะเราถึงยังรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป?


แน่นอนว่าปัจจัยด้านความเหงาและความใกล้ชิด เป็นตัวแปรสำคัญและถูกพูดถึงกันในวงกว้างแล้ว แต่ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน แต่กลับไม่เป็นที่สนใจเท่าไหร่ และสิ่งนั้นก็คือ #เสียงหัวเราะ นั่นเอง


ทุกท่านทราบไหมครับว่าปกติคนเราหัวเราะเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 18 ครั้ง แต่กว่า 97% เรามักจะหัวเราะร่วมไปกับคนอื่น แปลว่าอีก 3% เป็นการหัวเราะคนเดียว นั่นแปลว่าเราหัวเราะไปกับคนอื่นมากกว่า 30 เท่าของการหัวเราะคนเดียว ลองนึกย้อนดูเล่น ๆ ถึงครั้งล่าสุดที่เราได้หัวเราะ หลายคนจะมีหน้าของคนที่อยู่กับเราในตอนนั้นลอยมาให้เห็นได้เลย แต่ถ้านึกให้ลึกกว่านั้นไปอีกว่าที่ผ่านมาเวลาที่เราหัวเราะไปด้วยกันแล้วมีสักกี่ครั้งที่มันตลกจริง ๆ ? เรื่องน่าสนใจคือมีงานวิจัยที่ออกมาบอกว่า 80% ของสิ่งที่เราหัวเราะมันจริง ๆ ก็ไม่ได้ตลกขนาดนั้น


ถ้าอย่างนั้นแล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนเราหัวเราะกันล่ะ? เหตุผลง่าย ๆ คือเราหัวเราะเพราะคนอื่นหัวเราะ คนเรามีสัญชาติญาณที่จะหัวเราะเพื่อที่จะได้หัวเราะไปพร้อม ๆ กับคนอื่น คล้าย ๆ กันกับที่เรามักจะเริ่มหาวเมื่อมีคนหาวนั่นเอง เช่นเดียวกันคนส่วนใหญ่แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อมีคนใกล้ ๆ เราหัวเราะ


โดยการหัวเราะเมื่อมีคนใกล้ ๆ หัวเราะไม่ใช่เป็นเพียงปรากฏการทางพฤติกรรมเฉย ๆ แต่เมื่อเราหัวเราะร่างกายเราจะปล่อยสารเคมีสำคัญสองตัวได้แก่ Endorphine ที่มีผลช่วยลดความเจ็บปวด และทำให้เรารู้สึกดี และสารเคมีอีกตัวหนึ่งก็คือ Dopamine ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกฟิน และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ สมาธิ และแรงบันดาลใจ แปลว่าโดยรวม ๆ แล้วนั้นการหัวเราะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้านตั้งแต่สร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด และปัจจัยด้านสุขภาพอีกมากมาย แต่ประโยชน์สำคัญที่อยากจะเล่าให้ทุกท่านฟังในวันนี้คือเสียงหัวเราะนั้นช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้กับเรา และช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงาน


เมื่อเราแยกย้ายกันมากขึ้นในสภาวะเช่นนี้ มีการพบปะกันน้อยลงแน่นอนว่านอกเหนือจากความเหงาแล้วเรายังมีโอกาสได้หัวเราะน้อยลงอีกด้วย และแน่นอนว่าทำให้เราอดได้รับประโยชน์ต่าง ๆ ที่มากมายของการหัวเราะรวมถึง Motivation และ Productivity ในการทำงานเช่นกัน และซ้ำไปกว่านั้นคือความเครียด และความกลัวที่เราต้องประสบเพียงลำพังมากขึ้นก็ทำให้สมองของเรายิ่งรวนไปกว่าเดิม และโดยรวม ๆ ทำให้เราเครียดง่ายขึ้น


และเราก็มาถึงบทบาทของผู้นำ และองค์กรในการช่วยให้พนักงานเราจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ แต่แน่นอนว่าเว้นแต่เราจะเป็นบริษัทพอดีพานิขของคุณโน้ส อุดม หน้าที่ของเราก็ไม่ใช่การเล่นมุกให้ใครฟัง แต่ด้วยสภาวะการณ์เช่นนี้ที่เสียงหัวเราะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการรักษา Motivation และ Productivity ของพนักงาน หน้าที่ของเราจึงต้องเป็นการหาทางในการส่งเสริมให้เสียงหัวเราะเกิดขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย วันนี้เรามี 5 แนวทางในการส่งเสริมเสียงหัวเราะมาฝากกัน


1. ใช้เวลาให้มากขึ้น ผู้นำส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่าต้องรีบให้การวิดีโอคอลมีประสิทธิภาพให้มากที่สุดซึ่งก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีในเวลาปกติ แต่ในเวลาที่การปฏิสัมพันธ์แบบ virtual นั้นเป็นทางเดียวที่เราจะได้พบเจอกัน ความมีประสิทธิภาพนี้จะส่งผลตรงกันข้าม เพราะในสภาวะแบบนี้การวิดีโอคอลนั้นเป็นโอกาสดีให้มีการพูดคุยสัพเพเหระมากกว่าแค่การทำให้เสร็จ ๆ ไป และเสียงหัวเราะคือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้ทีมได้เชื่อมต่อกัน แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องให้เวลากับมัน และช่วยเอื้อมันมันเกิดขึ้น


2. เปิดกล้องเยอะ ๆ เพราะคนเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่งในการอ่านสีหน้าท่าทางมาก ๆ โดยเฉพาะสัญญาณที่บอกว่าตรงนี้หัวเราะได้ การเปิดกล้องจะช่วยให้เราหาจังหวะหัวเราะเกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น และเพิ่มโอกาสมากขึ้น [และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่บางท่านอาจจะยังไม่ได้หัวเราะไปกับ Podcast นี้สักเท่าไหร่]


3. ยิ้มเยอะ ๆ เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนเรามักจะหันไปหาผู้นำโดยไม่รู้ตัวเพื่อเช็คว่ามันโอเคไหมที่จะทำอะไรบางอย่าง และแน่นอนว่ารวมถึงการเช็คให้ชัวร์ด้วยว่าตรงนี้หัวเราะได้ไหม และสัญญาณที่ดีที่สุดที่บอกว่าหัวเราะได้นั้นคือรอยยิ้มนี่แหละ ที่เป็นตัวบอก


4. ทำให้เป็นตัวอย่าง เพราะเหมือนที่เล่าไปก่อนหน้านี้ที่ว่าการหัวเราะเรานั้นคล้ายกับการหาว ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการเอื้อให้เกิดเสียงหัวเราะอาจจะเป็นเพียงแค่การเป็นคนแรกที่เริ่ม แต่แน่นอนว่าคนเราก็แยกแยะเสียงหัวเราะจริง กับหัวเราะปลอม ๆ ออก นั่นทำให้ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก ๆ


5. ทำให้ตัวเองอารมณ์ดี วิธีที่ง่ายที่สุด และจริงใจที่สุดในการเป็นผู้นำให้เกิดเสียงหัวเราะคือการทำให้ตัวเองอารมณ์ดี เพราะการหัวเราะตอนอารมณ์ดีมักง่ายกว่าตอนอารมณ์เฉย ๆ โดยเฉพาะผ่านวิดีโอคอล ดังนั้นในอุมดมคติแล้วอาจจะลองหาเรื่องให้ตัวเองได้หัวเราะออกมาสักนิดก่อนจะเริ่มประชุมเป็นการ set mood


นั่นคือ 5 แนวทางง่าย ๆ ในการนำเสียงหัวเราะกลับมาให้กับทีม หรือองค์กรของเราท่ามกลางสภาวะแบบนี้ และแม้เมื่อถึงเวลาที่วิกฤตินี้หมดไปแล้ว แต่ในอนาคตแนวทางการทำงานแบบทางไกลก็จะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างแน่นอน และการเอื้อให้เกิดเสียงหัวเราะจะยิ่งกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นในอนาคตในฐานะเครื่องมือในการรักษา Motivation และ Productivity ของพนักงาน และนอกจากนั้น 5 แนวทางนี้จะยิ่งมีประสิทธิภาพเมื่อเจอหน้ากันจริง ๆ อีกด้วย


A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture

.
>
>


หนังสือ Laughter: A Scientific Investigation โดย ROBERT R. PROVINE
https://journals.aom.org/doi/10.5465/ame.1998.1109047
https://hbr.org/2020/05/laughter-will-keep-your-team-connected-even-while-youre-apart
https://www.psychologytoday.com/intl/blog/changepower/201605/the-9-superpowers-your-smile
http://citeseerx.ist.psu.edu/viewdoc/download?doi=10.1.1.681.3284&rep=rep1&type=pdf

.
.

Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn
Search

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search