ในขณะที่คนทั่วโลกต่างรอคอยการกลับสู่สภาวะปกติ กลุ่มคนทำงานวิถีใหม่ก็ได้อุบัติขึ้น และพวกเขาก็พร้อมแล้วกับชีวิตทำงานแบบ New Normal เราเรียกพวกเขาว่า “กลุ่มคน “Generation R”
.
.
การแบ่งเกณฑ์ในปัจจุบัน พบกลุ่มคนอยู่ 5 กลุ่มหลัก คือ Baby Boomer, Gen-X, Gen-Y, Gen-Z (Milennials) หรือ Gen-Alpha (Digital Natives) ซึ่งถูกแบ่งตามลักษณะที่เป็น พฤติกรรม ความคิด ทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ ความรู้ความสามารถ ค่านิยม ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละยุคแต่ละสมัย
.
.
แต่สถานการณ์ Covid ในปัจจุบัน ทำให้กลุ่ม Gen ต่างๆ ทั่วโลก ล้วนประสบปัญหาและเผชิญความท้าทายรูปแบบเดียวกัน และในเวลาไม่กี่สัปดาห์กลุ่มคนเหล่านี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รูปแบบการดำเนินชีวิต และวิธีการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และนี่อาจเป็นครั้งแรกที่คนรุ่นต่าง ๆ เริ่มคิดเหมือนกัน โดยทำการ #RESET (รีเซ็ต) ตัวเองตามสถานการณ์ใหม่ ปรับมุมมอง ปล่อยว่าง และสร้างกรอบการเรียนรู้ใหม่ ให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน จนเกิดเป็นคนยุคใหม่ที่ถูกเรียกว่า #GenerationR”
.
.
.
?♀️?♂️ แล้วกลุ่ม Gen-R มีลักษณะเด่นอย่างไร??
.
.
Generation R เป็นกลุ่มคนที่พร้อมปรับแนวคิด ปรับมุมมองต่างๆ สามารถรับมือและเรียนรู้กับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างปกติสุข ไม่รู้สึกว่าความไม่แน่นอนเหล่านั้นอยู่เหนือการควบคุม ซึ่งกลุ่มคน Gen-R จะมีลักษณะร่วมกัน 4 ลักษณะ ดังนี้
.
1. Proactively preparing for a new normal of work (เตรียมตัวอยู่เสมอสำหรับ New Normal):
เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลังสถานการณ์คลี่คลาย และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันสูงจนกระทบเส้นทางอาชีพที่วางไว้ ดังนั้น คน Gen-R จะสร้าง skill ใหม่ๆ พวกเขาวางแผนเพื่อหาเงินหลายช่องทางมากขึ้นและยังลองรับบทบาทและงานใหม่ๆ อีกด้วย
.
2. Productivity in remote working setting (ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Remote):
คน Gen-R พอใจที่จะทำงานแบบ remote working มากกว่า และเชื่อว่าตารางเวลาที่ยืดหยุ่นและเทคโนโลยีที่มี ทำให้พวกทำงานที่มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น
.
3. Prioritising a balance between personal and professional (ให้ความสำคัญกับสมดุลความเป็นมืออาชีพและเคารพชีวิตส่วนตัว):
คน Gen-R ให้ความสำคัญและเรียนรู้ที่จะบริหารจัดการให้ตัวเองประสบความสำเร็จทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัวทั้งสองส่วน
.
4. Becoming more environmentally conscious (มีจิตสำนึกรักในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม):
ในช่วง Lock down ช่วยให้พวกเขาเห็นผลกระทบของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้เขาอยากมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม
.
.
.
?♀️?♂️ ในฐานะองค์กรจะเตรียมรับมือกับคน Gen-R ได้อย่างไร?
.
.
? Revisit employee mobility (พิจารณาความคล่องตัวของตำแหน่งภายในองค์กรใหม่)
ผู้คนจะกลับมาพร้อมทักษะและมุมมองใหม่ พวกเขาอยากจะเจอกับความท้าทายใหม่ๆ ขององค์กร จึงต้องเตรียมพื้นที่สำหรับการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่ ทีมใหม่ หรือหน้าที่ใหม่ๆ
.
.
? Enable True work environment (เปลี่ยนสไตล์การทำงานให้ยืดหยุ่นอย่างแท้จริง)
องค์กรควรสนับสนุนผู้ที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง Productivity ในการทำงานแบบ Remote working ด้วยเครื่องมือและขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนให้พวกเขาทำงานแบบ Remote ได้
.
.
? Strengthen workplace culture (เสริมสร้างความแกร่งให้วัฒนธรรมองค์กร )
เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย พนักงานจะคาดหวังให้องค์กรเห็นใจและเข้าใจมากขึ้น ทั้งในเรื่องของชีวิตในการทำงาน และชีวิตส่วนตัว ความเข้าใจในทีม ผู้นำและผู้จัดการจำเป็นต้องใช้ทักษะในการนำทีมและบริหารทีมในทุกสภาวะ รวมถึงการให้อำนาจในการตัดสินใจและสนับสนุนต่างๆ
.
.
? Provide Purpose-driven opportunities (สร้างงานที่มีความหมาย)
คนแสวงหาความหมายในการทำงานมากขึ้น และคาดหวังให้องค์กรมีความรับผิดชอบต่อสังคม และทำในสิ่งที่มีความหมายมากขึ้น และหากองค์กรที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้นอาจเผชิญความยากลำบากในการจ้างงานและจูงใจให้พนักงานอยู่ต่อ
.
.
.
และนี้คือกลุ่มคนยุคใหม่ที่มาพร้อมกับสถานการณ์ที่ผันผวนในปัจจุบัน กลุ่มคน Gen-R ที่พร้อมจะปรับตัวอยู่เสมอนั่นเอง
A Cup of Culture
.
.
>
>>
อ้างอิง: https://hrmasia.com/the-rise-of-the-generation-r-in-the-ne…/
http://venturesafrica.com/lebanon-based-migrant-workers-fr…/
https://blogs.oracle.com/oracl…/the-rise-of-the-generation-r