29 ไอเดียสร้างขวัญและกำลังใจพนักงานด้วย Data Driven

ในปีหนึ่งๆ แรงจูงใจของพนักงานจะลดลงไปโดยธรรมชาติถึงปีละ 2-3 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพราะผ่านฤดูฝน ผ่านช่วงวันหยุดยาว หรือกำลังผ่านช่วงวิกฤตอย่าง Covid นี้  และบางครั้งพนักงานก็ผ่านช่วงเวลาที่พวกเขารู้สึกมีแรงจูงใจน้อยลงโดยไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คุณคงไม่ต้องการให้พนักงานหมดกำลังใจนานนัก

ความสุขของพนักงาน การมีสุขภาพที่ดี จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและการลาออกน้อยลง ข่าวดีก็คือ การเสริมสร้างกำลังใจให้พนักงานไม่จำเป็นต้องมีความซับซ้อน หรือเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก มีหลายสิ่งที่องค์กรสามารถนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากจนเกินไป
.
.

เทคนิคการสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานด้วย Data Driven จาก Fundera ที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาผลตอบแทน, วัฒนธรรมการทำงาน, ไอเดียในการสื่อสาร และการบริหารจัดการ ผลสรุปออกมามีแนวทางที่เป็นหัวใจสำคัญซึ่งท่านสามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจภายในองค์กรได้ดังนี้
.
.

INCENTIVES (ผลตอบแทน):

  1. อัตราค่าจ้างที่แข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆได้
    44% ของพนักงานออกจากที่เดิมเนื่องจากค่าจ้างที่อื่นสูงกว่า
  2. ให้สวัสดิการที่หลากหลาย
    80%  ของพนักงานมองว่าการได้รับผลประโยชน์ที่หลากหลายเกิดจากวิสัยทัศน์และค่านิมยมขององค์กรของพวกเขา
  3. ให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพ
    56% ของชาวอเมริกันเห็นว่า สวัสดิการด้านสุขภาพเป็นสาเหตุที่ทำให้ยังทำงานกับที่ทำงานปัจจุบัน
  4. ชื่นชมคนขยัน
    69% ของพนักงานบอกว่า พวกเขายอมทำงานมากขึ้นหากได้รับคำชื่นชมและการยอมรับ
  5. จัดให้มีการพัฒนาในสายอาชีพ
    การจัดให้มีการอบรมและพัฒนาช่วยรักษากลุ่ม Millennials ไม่ให้ออกจากงาน ได้ถึง 86%
  6. มีความยืดหยุ่นในตารางงาน
    75% ของพนักงานบอกว่าพวกเขาทำงานได้มี productivity มากกว่าเมื่อได้ทำงานที่บ้าน

WORK CULTURE (วัฒนธรรมการทำงาน):

  1. รู้จักขอบคุณ
    87% ของพนักงานที่ได้รับความรู้สึกขอบคุณในที่ทำงาน ไม่ลาออกจากองค์กรของพวกเขา
  2. สร้างระบบพี่เลี้ยง การสอนงาน
    83% ของพนักงานที่เข้าร่วมระบบการสอนงานช่วยทำให้พวกเขาอยากทำงานในองค์กรเดิมต่อไปมากขึ้น
  3. ลำดับความสำคัญของค่านิยมองค์กร
    20%  ของกลุ่มพนักงานที่มีอายุ 24-35 ปี มองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่นายจ้างต้องมีชื่อเสียงด้านความประพฤติที่มีจริยธรรม, ยอมรับความหลากหลาย และไม่เลือกปฏิบัติ
  4. สนับสนุน Work Life Balance
    เกือบ 50% ของพนักงานมองว่าหากตึงเครียดในที่ทำงานมากเกินไปส่งผลให้พวกเขาใส่ใจในงานน้อยลง
  5. ส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี
    54% ของผู้เชี่ยวชาญมองว่าโปรแกรมรณรงค์การมีสุขภาพดีช่วยพัฒนาแรงจูงใจของพนักงานได้

COMMUNICATION (การสื่อสาร):

  1. สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
    86% ของผู้บริหารและพนักงานบอกว่าการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดความล้มเหลวในการทำงาน
  2. จบการประชุมด้วยเป้าหมายที่ทำได้จริง
    46% ของพนักงานไม่รู้ว่าหลังจากประชุมแล้วจะต้องทำอะไรต่อ
  3. ลดการส่ง Email ลูกโซ่ หรือ Email ที่ไม่จำเป็น
    96% ของพนักงานมองว่าอีเมล์ที่ไม่จำเป็น อย่างอีเมล์กลุ่มยาว ๆ ที่ส่งกันต่อเนื่อง หรืออีเมล์ลูกโซ่ ทำให้พวกเขาเสียเวลา
  4. สื่อสารในช่วงเวลาทำงาน
    26% ของทั้งหมดรู้สึกกดดันที่จะตอบเมล์ทำงานในช่วงนอกเวลาทำงาน
  5. สนับสนุนการทำงานเป็นทีม
    ประสิทธิภาพสามารถพัฒนาได้โดย 20-25% ของพนักงานในองค์กรมีการประสานเชื่อมโยงกัน
  6. จัดเตรียมช่องทางการสื่อสารหลายรูปแบบ
    55% ของพนักงานมองว่า application ในมือถือช้วยให้พวกเขาได้รับแจ้งข่าวสารและมีความผูกพันมากขึ้น

OFFICE (การทำงานในองค์กร):

  1. ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ
    73% ของพนักงานที่ทำงานโดยใช้ระบบ digital ในที่ทำงาน ผลทำให้ประสิทธิภาพงานของพวกเขาเกิดผลลัพธ์ในทางที่ดีขึ้น
  2. เอาต้นไม้เข้ามาปลูกในออฟฟิต
    ต้นไม้ในร่ม 2-3 ต้นสามารถช่วยเพิ่มความผูกพันและเพิ่มผลผลิตขึ้นถึง 15%
  3. อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าออฟฟิต
    88% ของพนักงานที่ทำงานในที่ๆเป็นมิตรหรือรักสัตว์ วางแผนจะทำงานที่บริษัทเดิมต่ออีก 12 เดือน
  4. เตรียมขนมเสบียงต่างๆ
    การมีขนมจัดเตรียมไว้ทำให้ 57% ของพนักงานรู้สึกมีคุณค่าและรู้สึกขอบคุณ
  5. มีจอแสดงผลหลายอัน
    จอแสดงผล 2 จอถูกพิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 50%
  6. หามุมแสงธรรมชาติในออฟฟิต
    54% ของพนักงานที่เข้าถึงแสงธรรมชาติได้จะรู้สึกผูกพันกับหน้าที่ของเขา

MANAGEMENT (การบริหารจัดการ):

  1. เลือกผู้จัดการของคุณอย่างชาญฉลาด
    58% ของพนักงานบอกว่าการบริหารงานที่แย่เป็นอุปสรรคใหญ่ในการเพิ่มผลผลิต
  2. ส่งเสริมให้พนักงานเติบโต
    69% ของพนักงานที่ผู้จัดการช่วยตั้งเป้าหมายให้มีความผูกพันสูง
  3. Feedback พนักงานทุกอาทิตย์
    43% ของพนักงานที่มีความผูกพัน รับ Feedback อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
  4. บริหารที่จุดแข็งของพวกเขา
    67% ของพนักงานที่ผู้จัดการมุ่งเน้นที่จุดแข็งของพวกเขามีรายงานผลว่ามีความผูกพันสูง
  5. ให้อิสระในการทำงาน
    พนักงานที่ใช้จุดแข็งของพวกเขาในการทำงานผูกพันถึง 6 เท่า
  6. ระวังอย่าให้ปริมาณงานล้น
    ผลผลิตลดลงถึง 68% เมื่อพนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีเวลาไม่เพียงพอต่อการทำงาน

.
.
ในยุคปัจจุบัน การขับเคลื่อนแบบ Data Driven Culture เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริหารและผู้นำองค์กรอย่างมาก จนอาจเรียกได้ว่า เราไม่สามารถขาดข้อมูลในการตัดสินใจได้เลย และจำเป็นต้องใช้ในการนำการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่มีการนำแนวทางของ Agile ไปประยุกต์ใช้แล้ว Data ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเร่งให้องค์กรเกิดความเป็น Agile อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งนี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของข้อมูลเพื่อนำมาสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน และจะดีแค่ไหนหากองค์กรของท่านมี Data ซึ่งบ่งบอกถึงพฤติกรรมของพนักงานในองค์กรท่านเอง

.
.

“ท้ายสุดนี้…ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม วัฒนธรรมองค์กรจะเกิดขึ้นอยู่ดี ทำไมเราไม่มาสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบที่เราอย่างเห็นกันละ”

A Cup of Culture

ที่มาจาก: https://www.fundera.com/blog/improve-employee-morale

Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn