เริ่มต้นสร้าง Sense of Ownership ในพนักงานอย่างไรดี?

สัปดาห์ที่ผ่านมีแฟนเพจชวนเราพูดคุยหลังไมค์เกี่ยวกับ “Sense of Ownership” หรือ “ความรู้สึกเป็นเจ้าของ” ของพนักงานต่อการทำงานในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ท้าทายจากช่วงวิกฤต ทำไมบางองค์กรถึงรอดได้แม้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ ทำไมบางองค์กรต้องแยกย้ายและปิดตัวลง ทำให้ได้ไอเดียน่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์ต่อแฟนเพจท่านอื่น ๆ ในช่วงที่ “Sense of Ownership” น่าจะมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนและพลิกฟื้นสถานการณ์ทางธุรกิจในช่วงนี้
.
.

“Sense of Ownership” เป็นมากกว่าความรับผิดชอบในหน้าที่ แต่เป็นความคิดหรือความรู้สึกของพนักงานที่ต้องการเห็นองค์กรของพวกเขาประสบผลสำเร็จในเป้าหมาย ก้าวผ่านอุปสรรค สร้างผลกำไรและเติบโต ลองจินตนาการดูว่าถ้าพนักงานทุกคนในองค์กรมีความคิดประหนึ่งว่าตัวเองเป็น “เจ้าของกิจการ” จะส่งผลถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพนักงาน และสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อผลลัพธ์ขององค์กรอย่างไรบ้าง?

ในช่วง 3- 4 เดือนที่ผ่านมาอาจจะเป็นบททดสอบให้เห็นถึงระดับของ Sense of Ownership ของพนักงานในองค์กรที่ดีเลยทีเดียว

Sense of Ownership สามารถสังเกตง่าย ๆ จากพฤติกรรมต่อไปนี้

□  สนใจหรือ “อิน” เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาขององค์กร

  สนใจในงานด้านต่าง ๆ ขององค์กรนอกเหนือจากงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ

 สนใจเกี่ยวกับเป้าหมายองค์กร และตัวชี้วัดในงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมาย

□  สามารถการจัดการตนเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในหน้าที่รับผิดชอบ

  มีความต้องการที่จะศึกษาเรียนรู้เทคนิคเพื่อทำงานให้ง่ายขึ้นและดีขึ้น

  เปิดรับคำติเตียน หรือความคิดใหม่ ๆ และใช้ในการพัฒนากระบวนการ และปรับปรุงผลลัพธ์ให้ดีขึ้น

  นำเสนอความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนา

  ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหานอกเหนือความรับผิดชอบ

  ไม่ย่อท้อเมื่อเกิดความผิดพลาดหรืออุปสรรค

□  กระตือรือร้นเพื่อสิ่งที่ดีกว่า


สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาจากทัศนคติที่แตกต่างกันของพนักงานเท่านั้น แต่องค์กรก็สามารถส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดพฤติกรรมที่แสดงถึง Sense of Ownership ได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้


1. ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) และ ค่านิยมหลัก (Core Values)


หลายองค์กรอาจเติบโตมาด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมที่ถูกกำหนดมาจากผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหารระดับสูง และพนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติตามที่กำหนด แต่ถ้าพนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการกำหนดสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นการสร้าง Sense of Ownership ที่เพิ่มขึ้น หลัง lockdown นี้อาจเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะมาทบทวนกันใหม่ว่า หลังจากวิกฤต Covid-19 ที่เกิดขึ้นทิศทางและเป้าหมายขององค์กรมีอะไรที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ให้โอกาสทุกคนในการระบุวิสัยทัศน์และค่านิยมที่พวกเขาคิดว่าจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ผู้อ่านสามารถศึกษาเกี่ยวกับการทบทวนวัฒนธรรมองค์กรหลังวิกฤตได้ที่ https://www.facebook.com/ACupOfCultureACOC/posts/262277921869895?__tn__=K-R\


องค์กรสามารถให้พนักงานมีส่วนร่วมโดยการใช้แบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นจากพนักงานอย่างทั่วถึง รวมถึงการคัดเลือกตัวแทนบุคคลจากแผนกต่าง ๆ เพื่อทบทวนข้อมูลเชิงลึก การมีส่วนร่วมในกระบวนการเหล่านี้และรับรู้ว่าได้ถูกนำไปใช้จริง และยิ่งถ้าพนักงานได้มีโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลง ความก้าวหน้า และผลสำเร็จแม้ว่าจะเล็กน้อยที่มาจากพวกเขาก็จะยิ่งสร้าง Sense of Ownership ที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น


2. สื่อสารแบบสองทาง


ไม่มีเจ้าของกิจการคนไหนที่อยากจะทำอะไรตามใบสั่ง คนเรามักจะเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อรู้เหตุผลว่าเปลี่ยนไปทำไม และฉันจะได้อะไรจากการเปลี่ยนแปลงนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ สิ่งที่จะช่วยให้พนักงานเกิด Sense of Ownership คือได้รับรู้จากการสื่อสารที่ชัดเจนถึงเหตุผลและและความสำคัญ รวมถึงการได้แสดงความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการคิดวิธีการแก้ปัญหา และความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมในการพาองค์กรผ่านพ้นปัญหาร่วมกัน


3. ให้อิสระในการทำงาน


อีกแนวทางในการสร้าง Sense of Ownership คือ การให้อิสระในการทำงาน เพื่อให้พนักงานรู้สึกถึงอิสระในหน้าที่รับผิดชอบและสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง ยิ่งในช่วงนี้ที่ในลักษณะการทำงานแบบ New Normal ที่อาจมีรูปแบบการทำงานแบบ Remote Work มากขึ้น ยิ่งเป็นโอกาสดีที่เอื้อในการสนับสนุนให้พนักงานมีอิสระในการทำงาน อาจเริ่มด้วยการมอบหมายงานที่มีเป้าหมายชัดเจน ไม่ Micromanage หรือจ้ำจี้จ้ำไชทุกขั้นตอน แต่ให้อิสระในการออกแบบวิธีการ การตัดสินใจในงานที่รับผิดชอบ รวมถึงการสนับสนุนการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างทักษะ และความมั่นใจในการตัดสินใจในงาน ข้อควรระวังคือ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดจากการมีอิสระในงาน หลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ แต่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและหาวิธีแก้ปัญหาร่วมกัน


3. เชื่อมโยงผลงานกับความสำเร็จขององค์กร


พนักงานจะรู้สึกถึง Sense of Ownership มากขึ้นก็ต่อเมื่อพวกเขาเข้าใจว่าผลงานของพวกเขามีผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จขององค์กรอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น
>

ผลงานผลกระทบต่อองค์กร
ขายได้ตามยอดที่กำหนดบริษัทมีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น
ให้บริการลูกค้าจนครบกระบวนการลูกค้าพึงพอใจและบอกต่อ
ซ่อมรถให้ลูกค้าเสร็จทันเวลาลูกค้าชมเชยและกลับมาใช้บริการอีก             


ดังนั้น นอกเหนือจากการวัดผลงานที่กำหนดแล้ว ควรมีช่องทางที่พนักงานจะได้รับรู้ผลกระทบต่อองค์กรที่มาจากผลงานของพวกเขา  นอกจากนี้ยังสามารถสนับสนุนโครงการที่เปิดโอกาสในการนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนางาน หรือพัฒนาธุรกิจที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน เช่นการคิดผลิตภัณฑ์และนำไปขายได้จริงเป็นต้น


5. โอกาสเกี่ยวกับการปันผลกำไร


วิธีนี้เป็นอีกทางเลือกที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาในการสร้าง Sense of Ownership สำหรับองค์กรที่มีความเป็นไปได้การปันผลกำไรจะช่วยให้พนักงานมีส่วนได้เสียในงานที่ทำ ยิ่งทำมากก็ยิ่งได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้นตอบแทนอย่างชัดเจนโดยใช้รูปแบบที่แตกต่างกันเช่น Incentive Bonus ประจำปี หรือหุ้นบริษัท เป็นต้น  

………………………


Sense of Ownership ไม่ได้เป็นเพียงแค่วิธีที่จะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานอีกด้วย


ท่านผู้อ่านที่มีความสนใจเกี่ยวกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเรื่องไหนเป็นพิเศษสามารถ inbox มาคุยกับพวกเราได้ หรือศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.brightsidepeople.com/our-services/



A Cup of Culture


ที่มาของบทความ

https://medium.com/@warrentanner/heres-how-you-get-employees-to-take-ownership-over-their-work-ebe1f7ebf508

“Ownership”: see why the concept of ownership must be a part of your company
4 Things That Will Give Employees a Sense of Ownership

https://soapboxhq.com/blog/employee-motivation/help-employees-take-ownership-work

Share to
Related Posts:
Search

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search