ถึงจุดหนึ่งหลายคนอาจจะต้องตั้งคำถามว่าเรากำลังทำงานนี้อยู่ทำไมกัน ซึ่งบางครั้งปัญหาในที่ทำงานก็อยู่ในจุดที่แก้ไขได้ แต่บางครั้งการตัดสินใจที่ถูกต้องคือการเลือกเดินเส้นทางใหม่ วันนี้เราจะมาดู 6 สัญญาณสำคัญที่บอกเราว่า… เวลานั้นได้มาถึงแล้ว
ตลอดสองปีที่ผ่านมาเราเห็นการลาออกเกิดขึ้นมากมายด้วยหลาย ๆ สาเหตุ โดยปรากฏการณ์นี้ก็มีชื่อที่หลายท่านคงคุ้นเคยกันดีว่า The Great Resignation โดยบางคนก็ลาออกมีทั้งที่มองหาความยืดหยุ่นที่มากขึ้นผ่านการทำงานแบบ gig economy หรือลาออกเพื่อเปลี่ยน lifestyle หรือแม้แต่ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ
และถ้าใครกำลังรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสภาวะที่มองหาความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในหน้าที่การงาน และสนใจจะเข้าร่วม The Great Resignation และกำลังครุ่นคิดว่าตัดสินใจดีแล้วหรือยัง วันนี้เรามี 6 สัญญาณที่อยากให้ชั่งน้ำหนักว่าถึงเวลาจากลาแล้วจริง ๆ หรือไม่
1. ทำงานนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้เราเติบโตอีกต่อไป
เมื่อถึงจุดหนึ่งอะไรก็ตามที่เราทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะหยุดให้การเติบโตกับเรา โดยเมื่อเรารู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ได้ช่วยให้เราเติบโตอีกต่อไป เราควรที่จะลองมองหาความเปลี่ยนแปลงบางอย่างมาเพิ่มเติมให้กับงานก่อนที่จะมองหาทางออก โดยสิ่งที่ทำได้คือการลองพยายามลองออกแบบวิถีการทำงานใหม่ให้ตัวเอง ปรับมุมมองตัวเองในการทำงานบางชิ้นที่เราทำบ่อย ๆ การทำแบบนี้มีคำเรียกว่า Job crafting สำหรับท่านที่สนใจศึกษาเพิ่มเติม แต่ถ้าสุดท้ายแล้วหมดหนทางจริง ๆ ที่จะสร้างการเติบโตเรียนรู้ให้ตัวเองจากงานนี้ ก็อาจจะถึงเวลาต้องเดินหน้าต่อกับที่ใหม่
2. ทำสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว
ในบางครั้งเราหยุดที่จะเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานปัจจุบันของเราเพราะมันไม่มีอะไรให้เป็นเป้าหมายอีกต่อไปแล้ว ลองมองหาดูว่ามีอะไรอีกไหมที่เราอยากที่จะทำให้สำเร็จในงานปัจจุบันของเรา หรือลองตั้งเป้าหมายให้ท้าทายกว่าเดิมในงานนี้ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเป้าหมายต่าง ๆ ไม่ได้กระตุ้นเราได้อีกต่อไป อาจจะถึงเวลาที่เราต้องมองหาเป้าหมายใหม่ในที่อื่น
3. พยายามหาช่องทางต่างๆ มาหลบเลี่ยงการทำงาน
การผลัดวันประกันพรุ่ง ทำงานบ้านในเวลางาน หรือหากิจกรรมใด ๆ ก็ตามมาคั่นเวลาให้เราไม่ต้องทำงาน อาจจะเป็นสัญญาณว่าเราอาจจะต้องมีเวลาพักจากงานที่เราทำอยู่บ้างแล้ว เพื่อให้เรากลับมารัก หรือแม้แต่ยอมทำมันได้อีกครั้งหนึ่ง โดยหลาย ๆ ครั้งเราอาจจะแค่ต้องฝืนตัวเองให้ทำให้เสร็จ แต่ในบางครั้งมันอาจจะถึงเวลาต้องพักชั่วคราว หรือถาวรจากงานที่ทำให้เราต้องหลีกเลี่ยงมันขนาดนั้น
4. เข้าทำงานด้วยความอ่อนล้า และเหนื่อยหน่าย
เมื่อการออกจากบ้านไปทำงานต้องอาศัยความพยายามทางจิตใจอย่างมาก และระหว่างทางไปทำงานเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย และอารมณ์เชิงลบ แม้จะเคยเป็นงานที่เรารักแค่ไหน แต่ก็อาจจะเป็นสัญญาณว่างานนี้คงไม่เหมาะกับเราอีกต่อไปแล้ว เพราะชีวิตเรานั้นสั้นและมีค่างานที่ดีควรที่จะไม่ทำให้ชีวิตจืดจางได้ขนาดนี้
5. งานที่ทำให้เราเกิดนิสัยแย่ ๆ
ในที่ทำงานที่วัฒนธรรมองค์กรมีความ Toxic หลายครั้งที่แม้แต่คนที่จิตใจดีที่สุดก็พบว่าเมื่ออยู่ไปนาน ๆ ตัวเองก็เริ่มทำพฤติกรรมที่ก่อนหน้านี้มองว่าผิดศีลธรรม หรือแม้แต่ทำพฤติกรรมเหล่านี้นอกเวลางาน เมื่อเราสังเกตตัวเองว่าพฤติกรรมเราเปลี่ยนไป และไม่ได้ชอบตัวตนในปัจจุบันของเราแล้วการอยู่กับที่ทำงานที่วัฒนธรรมองค์กรส่งเสริมพฤติกรรมเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องที่ดีอีกต่อไป เพราะเราไม่ควรปล่อยให้สภาพแวดล้อมแย่ ๆ เปลี่ยนตัวตนของเราให้แย่กว่าเดิม
6. ที่ทำงานเป็นภัยต่อสุขภาพ
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่บอกว่าเราควรที่จะมองหางานใหม่คือ เมื่อเพื่อนร่วมงานตะคอกใส่กัน ด่า และดูถูกกันไปมา รวมถึงที่ทำงานที่ใช้เราหนักเกินเวลาไปไกล เพราะที่ทำงานในลักษณะนี้เป็นอันตรายต่อตัวเราทั้งในด้านร่างกาย และจิตใจ และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าเราควรเปลี่ยนงานแล้ว แน่นอนว่าสัญญาณที่ว่าเราควรเปลี่ยนงานนั้นไม่ได้มีแค่ 6 อย่างข้างต้น แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก่อนที่เราจะตัดสินใจ ลองหาทางปรับเปลี่ยนในส่วนที่ปรับเปลี่ยนได้ แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรการปล่อยว่าสิ่งเก่า ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต และสุดท้ายแล้วสำหรับคนทำงานนั้น The Great Resignation อาจจะหมายถึงโอกาสในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเองให้มีความสุขมากขึ้นเช่นกัน
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
Corporate culture
Organizational culture
.
.