ผู้นำแบบ Work-Life Balance (เค้าทำแบบนี้นี่เอง)

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน วัฒนธรรมการทำงานแบบสัปดาห์ละ 80 ชั่วโมง เฉกเช่นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง Elon Musk และ Tim Cook ดูเหมือนจะกลายเป็น gold standard สำหรับผู้นำที่แสวงหาความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อัตรา burnout เพิ่มสูงขึ้นและความพึงพอใจในงานลดลง เครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ก็เกิดขึ้น… “ตารางการทำงานแบบ always on เป็นหนทางเดียวสู่การเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จจริงหรือไม่?”


ในขณะเดียวกันมีผู้นำและองค์กรสายพันธุ์ใหม่หลายแห่งกำลังลุกขึ้นมาท้าทายบรรทัดฐานนี้ ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานนั้นไม่เพียงเป็นไปได้เท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อ wellbeing ของแต่ละบุคคลและประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรโดยรวมอีกด้วย


….จุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนกระบวนทัศน์….


Jessica DeGroot ผู้ก่อตั้ง ThirdPath Institute เป็นหัวหอกในการเปลี่ยนแปลงนี้ สถาบันของเธอตระหนักถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง จึงส่งเสริม community ที่ผู้นำระดับสูงจากบริษัทที่มีชื่อเสียงมากมายมาร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ในการสร้างสมดุลย์การทำงานและชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ “vacation checklist” ที่คัดสรรแล้ว ไปจนถึงแนวทางเชิงรุกสำหรับช่วงเวลาทำงานที่เงียบสงบและมีสมาธิ ผู้นำเหล่านี้กำลังบุกเบิกโมเดลที่สมดุลเพื่อความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งประเด็นสำคัญที่สามารถนำไปปฏิบัติได้:


1) ยอมที่จะยืดหยุ่น:

ดังที่ Ivan Axelrod แสดงให้เห็น ผู้นำสามารถบรรลุความสมดุลโดยส่งเสริมการทำงานที่ยืดหยุ่นและทำงาน remote work การเปลี่ยนแปลงของ Axelrod ไปใช้โมเดลนี้ทำให้ยอดการลาออกลดลง เพิ่มขวัญกำลังใจ และเพิ่มผลผลิต

Key takeaway: พิจารณานำไปใช้หรือสนับสนุนชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นและ remote work ในองค์กรของคุณ


2) จัดลำดับความสำคัญและมอบหมาย:

ผู้นำอย่าง Michelle Hickox คิดใหม่ทำใหม่กับโครงสร้างการทำงานแบบดั้งเดิม โดยให้ความสำคัญกับครอบครัวของเธอในช่วงฤดูร้อน โดยไม่กระทบต่อเส้นทางอาชีพของเธอ

Key takeaway: ระบุลำดับความสำคัญของคุณและอย่าลังเลที่จะมอบหมายงานหรือเจรจากำหนดการของคุณกับงานเหล่านั้น


3) ประเมินตารางเวลาเสมอๆ:

แนวทางของ Will Rowe ในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานเกี่ยวข้องกับการประเมินตารางงานของเขาทุกสัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องครอบครัวจะไม่ถูกละเลย

Key Takeaway: ประเมินตารางเวลาของคุณเป็นประจำ หากเรื่องส่วนตัวขัดแย้งกับงาน ให้หาวิธีจัดกำหนดการใหม่หรือมอบหมายงาน


4) เน็ตเวิร์คกับเพื่อนที่คล้ายกัน:

Hickox พบป่ะกับคนที่ช่วยตอกย้ำความเชื่อในการสมดุลชีวิตและการทำงาน

Key Takeaway: ค้นหาหรือสร้างกลุ่มที่สนับสนุนการแบ่งปันและร่วมแนวทางชีวิตการทำงานที่สมดุล


5) ยืนหยัดเป็นแบบอย่าง:

หากคุณอยู่ในตำแหน่งผู้นำ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดแนวทางให้กับทีมของคุณ ผู้นำอย่าง Susan Wojcicki จาก YouTube เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่พร้อมทั้งทำมื้อเย็นให้ที่บ้านไปด้วย

Key Takeaway: เป็นแบบอย่างในสิ่งที่คุณอยากเห็น ใช้นโยบายที่ส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานและเป็นทำเป็นตัวอย่างแบบเสมอต้นเสมอปลาย


A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#organizationalculture
.
.

Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn