อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งไปกับองค์กร ? คำตอบคือ การที่เราได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และการได้รับความเคารพหรือถูกเห็นคุณค่า แน่นอนว่ามีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เรารู้สึกอย่างนี้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้รวมไปถึง Mission ขององค์กร นโยบาย และวิถีปฎิบัติ จนไปถึงพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงาน แต่สุดท้ายแล้วปัจจัยสำคัญที่สุดคือ การย้อนกลับมามองที่ตัวผู้นำ
“องค์กร” เป็นไปตาม 1) สิ่งที่ผู้นำสื่อสารและปฏิบัติออกไป ซึ่งส่งผลเกิน 70% เมื่อเป็นด้านของวัฒนธรรมองค์กร 2) การที่พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ผู้นำต้องรู้ไว้ เพราะเมื่อใดที่ผู้นำองค์กรมีแนวทางที่ชัดเจนและพนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับองค์กรแล้วนั้น พวกเขาก็จะกล้าออกความคิดเห็น กล้าทำงานเกินความคาดหมาย และพร้อมให้ความร่วมมือมากขึ้น
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ทักษะผู้นำที่สามารถสร้างบรรยากาศของการเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกับองค์กรยุคนี้มาก เพราะมันจะช่วยให้องค์กรปรับตัวได้ทันกับลูกค้า ตลาด และการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ง่ายขึ้น และบทความในวันนี้ที่เราสรุปมาจาก Juliet Bourke และ Andrea Titus จะมาพูดถึง 6 คุณลักษณะที่ผู้นำประเภทนี้มีร่วมกัน:
1 – Visible commitment: ผู้นำต้องมีความตั้งใจจริงที่จะเปิดรับความคิดเห็นที่หลากหลาย และสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ในฐานะของผู้นำองค์กร
2 – Humility: ถ่อมตน ยอมรับความผิดพลาด และให้พื้นที่กับคนอื่นในการเติมเต็ม
3 – Awareness of bias: รับรู้ข้อจำกัด และจุดบอดของตัวเอง รวมไปถึงจุดบอดในระบบ
4 – Curiosity about others: เปิดใจและให้ความสนใจในสิ่งที่คนอื่นคิดอย่างจริงจัง ฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ตัดสิน
5 – Cultural intelligence: รับรู้ความแตกต่างในด้านวัฒนธรรมที่แตกต่างและปรับเปลี่ยนวิธีการรับมือได้
6 – Effective collaboration: ผู้นำที่ empower คนอื่น ใส่ใจความคิดเห็นที่หลากหลาย และให้พื้นที่กับการออกความเห็นได้อย่างเต็มที่
และถ้าถามว่าข้อไหนสำคัญที่สุด คำตอบก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ถามเอง เช่น ถ้าเป็นตัวผู้นำเป็นคนถาม แน่นอนว่าก็ต้องเป็นข้อแรก ก็คือ Commitment เพราะปราศจากข้อนี้ข้ออื่นไม่มีทางตามมาได้แน่นอน แต่ถ้าเป็นในมุมของคนที่ทำงานกับผู้นำ เช่น ผู้จัดการ หรือคนที่เป็นรายงานตรงกับผู้นำองค์กร
งานวิจัยเชิง 360 ของแบบทดสอบที่ชื่อว่า Inclusive Leadership Assessment (ILA) พบว่า แม้ทั้ง 6 คุณสมบัติสำคัญและทำงานควบคู่กัน แต่ประเด็นที่ส่งผลอย่างมากคือ Awareness of bias หรือการที่ตัวผู้นำต้องตระหนักได้ถึงอคติของตัวเองที่มีเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ เช่นการชวนตั้งคำถามว่าวิธีการคิดในตอนนี้ของเรากำลังมี bias ไปในรูปแบบไหนอยู่หรือไม่ แต่การตระหนักถึง bias ของตัวเองนั้นแน่นอนว่าไม่เพียงพอ เพราะต้องมี action บางอย่างตามมาด้วย และบทความนี้ยังระบุถึงสองพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการรับรู้ของพนักงานอย่างมากซึ่งได้แก่ Humility และ Empathy
ตัวอย่างของ Humility เช่น ผู้นำบางคนแม้จะรับรู้ว่าตัวเองกำลังมี bias แต่ก็อาจจะเลือกที่จะไม่ทำอะไรแล้วเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งนั้น ผู้นำจะต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นมีจุดบอด และยอมให้ทีมงานคนอื่น ๆ เติมเต็มไปด้วยกันเช่น การถามหา feedback หรือความคิดเห็นที่แตกต่าง และในส่วนของ Empathy หรือการมองในมุมคนอื่นนั้นทำให้พนักงานรู้สึกว่าผู้นำคนนี้เข้าถึงได้ รับฟังความคิดเห็น น่าไว้วางใจ และทำให้พนักงานอยากที่จะทำงานด้วย
และสุดท้ายเราก็มาถึงคำถามที่ว่า แล้วด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ถ้าเราเป็นผู้นำองค์กรเราต้องทำอะไรบ้าง ? นอกเหนือจากการถาม และรับฟังความคิดเห็นของพนักงานแล้ว เราอาจจะเริ่มได้ตั้งแต่การแบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันกับทีมงานคนอื่น ๆ ซึ่งแสดงออกถึงการที่ตัวผู้นำเองนั้นก็เข้ามาเป็น ‘ส่วนหนึ่ง’ กับคนอื่น ๆ ในองค์กร และเป็นแบบอย่างให้กับทีมงานคนอื่น ๆ ในด้านของ Humility หรือการเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ของพนักงาน การนั่งทำงานนอกห้องผู้บริหารเพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับที่ทำงาน
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
Corporate culture
Organizational culture
https://hbr.org/2020/03/the-key-to-inclusive-leadership
https://hbr.org/2019/03/why-inclusive-leaders-are-good-for-organizations-and-how-to-become-one
.
.
>>>