เชอรี่เป็นผู้จัดการคนใหม่ของทีม เธอกระตือรือร้นในบทบาทใหม่นี้มากและสังเกตุเห็นว่าน้ำฝนพนักงานในทีมกำลังใช้ซอฟท์แวร์ตัวหนึ่งอย่างไม่ถูกที่ถูกทางนัก เธอเลยเข้าไปคุยด้วยและให้คำแนะนำดีๆ หลายอย่าง แต่หลังจากนั้นน้ำฝนก็ยังเลือกใช้วิธีการเดิมๆ ที่ตนถนัด เชอรี่เลยเข้าไปนั่งประกบและลงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำฝนจะทำถูก ซึ่งเชอรี่ก็เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่แล้วทุกอย่างกลับแย่ลง น้ำฝนพยายามหลบหน้าและมีท่าทีต่อต้านทุกๆครั้งที่เธอพยายามจะให้คำแนะนำต่างๆ


จากการศึกษาของ David Rock ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำ neuroscience มาใช้พัฒนาภาวะผู้นำ พบข้อมูล 5 ด้านที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ ซึ่งเป็นการทำงานของสมองที่มีมาแต่โบราณ เป็นสัญชาตญาณพื้นฐานในการต่อสู้หรือหลบภัย (fight or flight)


การที่เชอรี่พยายามจะไปชี้แนะการทำงานต่างๆ ให้น้ำฝนแม้จะทำไปด้วยความปราถนาดีแต่กลับกลายเป็นทำให้น้ำฝนรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามและทำให้สมองหลั่ง cortisol (โฮโมนแห่งความเครียด) ซึ่งกลับปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์และความสามารถต่างๆ และนี่ส่งผลให้ระบบ Performance Management ขององค์กรที่อิงกับการให้ feedback และประเมินผลนั้นกลับไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรจะเป็น


📌 Status

การให้ Feedback เป็นการโฟกัสความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปแล้ว ซึ่งจะทำการกระตุ้นสมองสร้างความรู้สึกว่าสถานะทางสังคม (social status) ถูกคุกคามและมีผลในเชิงเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ว่าตนด้อยกว่า และจะต้องออกมาปกป้องทางใดทางหนึ่ง


📌 Certainty

เมื่อสมองรับรู้ว่ากำลังมีความไม่แน่นอนและจะเสียการควบคุม โฟกัสในเรื่องต่างๆ จะลดลงเพราะจะไปกังวลกับเหตุการณ์เหล่านั้นว่าจะมีผลกระทบกับอนาคตของตนหรือไม่


📌 Autonomy

มนุษย์ทุกคนต้องการมีอิสระภาพในการเป็นผู้เลือกและหลีกเลี่ยงการถูกเจ้ากี้เจ้าการจากคนอื่นๆ ระบบประเมินผลงานส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักที่มุมมองของผู้จัดการ


📌 Relatedness

ระบบ performance management มักสร้างความรู้สึกว่าผู้จัดการและเพื่อนร่วมงานคือคนที่อยู่ตรงข้ามกับเรามากกว่าจะเป็นทีมเดียวกัน ผู้จัดการทำการจัดลำดับว่าใครเก่งกว่าใครโดยมีเพื่อนๆเป็นคู่แข่ง ซึ่งน่าจะเป็นการลดทอนความสัมพันธ์มากกว่าจะส่งเสริม


📌 Fairness

การประเมินจะนำมาด้วยคำถามเสมอว่ายุติธรรมหรือไม่ ใช้เกณฑ์อะไรมาวัด โดยเฉพาะระบบ Forced Ranking แม้เรากับเพื่อนๆ จะมีผลงานใกล้เคียงกัน แต่โดยระบบผู้จัดการก็ต้องหาทางไม่ให้เท่ากัน การวางใจกันและกันก็จะไม่เกิดขึ้น.


A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture.

.
.
.


แหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.forbes.com/sites/forbescoachescouncil/2019/02/21/how-to-increase-engagement-on-your-team-a-science-backed-way/?sh=62c05f2e1774

https://www.forbes.com/sites/dedehenley/2020/03/28/evolve-your-leadership-in-this-time-of-crisis/?sh=3d6117a63ffd

https://www.mindtools.com/pages/article/SCARF.htm

https://hr.mcleanco.com/research/neuroscience-and-hr-storyboard

Share to
Facebook
Twitter
LinkedIn